ทรูมีเดีย ผนึกอินฟลูเอนเซอร์ พลิกโฉมมาร์เก็ตติ้ง 360˚ รับคนรุ่นใหม่

ทรู มีเดีย โซลูชั่นส์ พลิกมาร์เก็ตติ้ง แบบ 360 องศา ลุยเชื่อมออนไลน์ออฟไลน์แท็กทีมทั้งกลุ่มบริษัท ผนึกอินฟลูเอนเซอร์เกมในสังกัดกว่า 1,000 ราย รับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ปั้น THAILAND GAME SHOW 2018 ปั๊มรายได้สิ้นปี 200%

นาย ต่อบุญ พ่วงมหา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อและโฆษณา บริษัท ทรู มีเดีย โซลูชั่นส์ จำกัด เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า รูปแบบการทำมาร์เก็ตติ้งแบบเดิม ๆ เริ่มใช้ไม่ได้ผลในยุคนี้ โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กและวัยรุ่น เนื่องจากพฤติกรรมของเด็กรุ่นใหม่มุ่งไปออนไลน์ และอินฟลูเอนเซอร์มีอิทธิพลมากขึ้น บริษัทจึงได้เปลี่ยนแนวคิดจากการทำแอดเวอร์ไทซิ่งมาทำโซลูชั่นการตลาดแบบ 360 องศา โดยสร้างให้ครบอีโค
ซิสเต็มส์ ซึ่งบริษัทจะมี “ออนไลน์สเตชั่น” สื่อด้านเกมโดยเฉพาะ นอกจากนี้ บริษัทยังรวบรวมครีเอเตอร์หรือนักพากย์ช่วยสร้างคอนเทนต์ รวมทั้งมีการจัดงานไทยแลนด์ เกมโชว์ ดังนั้น โซลูชั่นของบริษัทจะครบทุกทัชพอยต์ โดยเชื่อมทั้งออนไลน์และออฟไลน์

“ตั้งแต่มีการประกาศให้อีสปอร์ตเป็นกีฬาทำให้มีคนดูเยอะ ส่งผลให้แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มให้ความสนใจการทำตลาดผ่านเกม เช่น การ์นิเย่ที่เป็นลูกค้าเรา แต่แบรนด์ไม่ต้องการแค่ซื้อโฆษณา เพราะใช้ไม่ได้ผลในกลุ่มวัยรุ่น ดังนั้น คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งจึงมาแรง และการตลาดที่น่าจับตามองคือ มาร์เก็ตติ้งโซลูชั่น 360 องศา ที่ผสมการทำมาร์เก็ตติ้งหลาย ๆ อย่าง ซึ่งเราโชคดีที่มีช่องทางหลากหลายและจับเทรนด์ได้ทันกับช่วงเปลี่ยนแปลง”

อย่างไรก็ตาม ปีนี้การดูเกมหรือการพากย์เกมมีความคึกคักมาก ดังนั้นบริษัทได้จับมือกับเฟซบุ๊กเพื่อให้ผู้ชมสามารถดูการพากย์เกม แคสต์เกมได้สด ๆ นอกจากนี้ก็มีแชนเนลอย่าง Twitch, True ID เป็นต้น และเตรียมจัด “THAILAND GAME SHOW 2018”

โดยมีการทุ่มงบประมาณเพิ่มกว่าปีที่ผ่านมาถึง 40-50% โดยเพิ่มพื้นที่จาก 7,000 ตร.ม. เป็น 8,000 ตร.ม. และจัดทำแอปพลิเคชั่น “Thailand Gameshow” เพื่อสร้างคอมมิวนิตี้ รวมทั้งร่วมกับทรูมันนี่ วอลเลตในการเปิดให้ซื้อตั๋วล่วงหน้า โดยคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโต 200%

“ที่ผ่านมากิจกรรมในงานมีเยอะมาก บางคนก็พลาดการทำกิจกรรม ดังนั้น แอปนี้จะช่วยแจ้งเตือนผู้เข้าร่วมงาน และเป็นตัวช่วยในการเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วมงานเพื่อปรับปรุงแผนต่อ ๆ ไปของบริษัท เพราะต่อไปแผนของบริษัทจะมาจากข้อมูลของผู้ใช้ นอกจากนี้แอปจะเป็นช่องทางใหม่ในการโฆษณาของแบรนด์ได้อีกด้วย”

ปัจจุบันบริษัทมีนักพากย์ในสังกัดกว่า 1,000 แชนเนล มียอดวิวรวมกันกว่า 14,000 ล้านวิว มีมาร์เก็ตแชร์ของครีเอเตอร์ในยูทูบประมาณ 30% เป็นอันดับ 1 โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนครีเอเตอร์เป็น 1,400 ราย ภายในสิ้นปี และในอนาคตบริษัทก็มีการมองถึงการสร้างนักกีฬาในสังกัด โดยตอนนี้มีเครือข่ายพันธมิตรที่ประเทศเกาหลี

“เริ่มแรกเรารวบรวมวิดีโอครีเอเตอร์ ยูทูบเบอร์ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว ตอนแรกมี 20 คน แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 คน โดยเราคอยช่วยในการพัฒนาโปรดักต์ทำให้เขามีแฟนคลับ ทำให้เขามีรายได้ และเราก็ได้ส่วนแบ่ง ซึ่งตอนนี้ top 10 ในไทยอยู่ในสังกัดของทรู 5 คน อาทิ เบอร์ 2 ของประเทศอย่าง “แป้ง zbing z.” มียอดคนติดตาม 6 กว่าล้าน”

นายต่อบุญกล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดเกมในไทยปีนี้คาดว่ามีมูลค่า 23,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 15% ซึ่งเป็นที่ 2 รองจากอินโดนีเซีย และเป็นอันดับที่ 20 ของโลก ส่วนผู้เล่นมีกว่า 18.3 ล้านคน เติบโตประมาณ 20-30% โดยปัจจัยที่ทำให้เติบโตคือ โมบาย อย่างไรก็ตาม อีโคซิสเต็มส์ในไทยค่อนข้างครบ เช่น นักพากย์เกมก็เติบโตมาก แต่สิ่งที่ไทยยังตามหลังคือ การผลิตเกม ดังนั้น ประเทศไทยควรจะต้องสนับสนุนการสร้างทรัพย์สินทางปัญญา (IP : intellectual property)

“หลายฝ่ายกำลังเถียงกันว่าการสนับสนุนอีสปอร์ตนั้นเร็วไปจะทำให้เด็กติดเกม แต่เรามองว่ารีบทำยิ่งดี เพราะมันสามารถนำไปใช้ในเชิงสร้างสรรค์ได้ แต่ทุกอย่างอยู่ที่ระบบความคิด ต้องมองให้เป็นเชิงบวก ต้องสอนให้ถูกทาง ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าพ่อแม่เข้าใจและส่งเสริมให้ถูกวิธีเด็กก็จะได้ประโยชน์มาก”

สำหรับงาน “THAILAND GAME SHOW 2018” เป็นความร่วมมือระหว่าง ออนไลน์ สเตชั่น และ บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด จะจัดในวันที่ 26-28 ต.ค.นี้ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน เปิดพื้นที่ทั้ง 3 ฮอลล์และเปิดพื้นที่ด้านหลังเพิ่มเติมเป็นโซนอาหาร และสร้างสนามแข่ง E-Sports Arena แบบ 360 องศา ให้เกิดขึ้นกลางงาน โดยคาดว่างานครั้งนี้จะมีผู้เข้างานกว่า 130,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 30% มียอดเงินสะพัด 140 ล้านบาท