“เอไอเอส” ผนึก “สิงเทล” เปิด VIA นำร่อง “ไทย-สิงคโปร์” ให้ลูกค้าที่ใช้อีวอลเลตข้ามประเทศ เปิดทางลูกค้า “Singtel Dash-Rabbit LINE Pay” กว่า 5.5 ล้านคน สแกน QR code ช็อปปิ้งในร้านค้า “ห้างดัง-แบรนด์หรูยันสตรีตฟู้ด”ก่อนปูพรมขยายทั่วเอเชียเพิ่มความสะดวกลูกค้า 700 ล้านคน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2561 กลุ่มสิงเทลได้เปิดตัวบริการชำระเงินผ่านมือถือข้ามประเทศ “VIA” กับพันธมิตรในกลุ่มสิงเทล เพื่อเชื่อมต่อบริการระหว่างกัน โดยจับมือกับ “เอไอเอส”และธนาคารกสิกรไทย เพื่อให้บริการชำระเงินด้วย “คิวอาร์โค้ด” ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนมือถือ (อีวอลเลต) ทั้ง Singtel Dash และ Rabbit LINE Pay (ผ่านแอปพลิเคชั่น AIS Global Pay) ในร้านค้าของทั้ง 2 ประเทศที่แสดงสัญลักษณ์ VIA รวมถึงร้านค้าในไทยที่มีสัญลักษณ์ Thai QR Code กว่า 1.6 ล้านร้านค้าทั่วประเทศ
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 350 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 42,050 บาท
นายอาเธอร์ แลง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสิงเทล อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ลูกค้าของสิงเทลและเอไอเอสจะชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดผ่านอีวอลเลตบนมือถือ ในร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VIA ซึ่งมีกว่า 20,000 ร้านทั่วสิงคโปร์ และ Thai QR Code ที่มีกว่า 1.6 ล้านร้านในไทย ด้วยสกุลเงินของประเทศตนเอง โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
“พันธมิตร VIA ต้องการเปลี่ยนแปลงการชำระเงินที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ด้วยการนำเอาอีวอลเลตรูปแบบต่าง ๆ มาอยู่รวมกัน เพื่อให้ผู้คนที่เดินทางในเอเชียใช้อีวอลเลตของตนเองได้ง่ายดายในต่างประเทศ ด้วยฐานผู้ใช้งานของกลุ่มสิงเทลกว่า 700 ล้านคน”
ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังตลาดของกลุ่มสิงเทลในเอเชียกว่า 80 ล้านคน และกว่า 1.5 ล้านคน เดินทางเข้ามาในสิงคโปร์และไทย เป็นแรงผลักดันที่ช่วยให้อาเซียนเข้าสู่สังคมไร้เงินสด และจากนี้จะมีการขยายบริการไปยังพันธมิตรอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น Airtel ในอินเดีย, Globe ในฟิลิปปินส์, Telkomsel ในอินโดนีเซีย ขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละประเทศปัจจุบัน อีวอลเลต Singtel Dash มีผู้ใช้กว่า 500,000 ราย
ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า บริการดังกล่าวยกระดับสังคมไร้เงินสดของไทยไปอีกขั้น ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับการชำระเงินดิจิทัลแบบไร้พรมแดน ซึ่งในไทยมีธนาคารกสิกรไทยเป็นพันธมิตรหลักด้านดิจิทัลแบงกิ้ง จากการมี Thai QR Code มากที่สุดในไทย ร่วมกับห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัล, ร้านค้าแบรนด์ดัง ได้แก่ After You และนารายา เป็นต้น รวมถึงร้านค้าขนาดกลางและเล็กตามแหล่งชุมชนและย่านสตรีตฟู้ด
“เมื่อมาไทย ชาวสิงคโปร์จะจ่ายเงินด้วย Singtel Dash ส่วนคนไทยไปสิงคโปร์จ่ายผ่าน Rabbit LINE Pay ด้วย AIS Global Pay ฟรีค่าธรรมเนียม”
ปัจจุบัน ในไทยมีผู้ใช้แอปพลิเคชั่น LINE 42 ล้านคนที่พร้อมใช้บริการ VIA ได้ทันที และมีผู้ใช้ Rabbit LINE Pay กว่า 5 ล้านราย เมื่อมีการยืนยันตัวตนตามระเบียบภาครัฐแล้ว จะดาวน์โหลด AIS Global Pay เพื่อใช้ VIA ได้ทันที
และในโอกาสเปิดตัวบริการระหว่างสิงคโปร์และไทย Singtel Dash มีส่วนลด 10% สำหรับทุกการชำระเงินผ่าน Singtel Dash ในไทย และให้อินเทอร์เน็ตโรมมิ่ง 1 GB สำหรับลูกค้าสิงเทล ส่วน AIS Global Pay เมื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่สิงคโปร์ โดยจ่ายด้วย Rabbit LINE Pay (ขั้นต่ำ 100 บาท) จะได้รับเงินคืน 100 บาท ตั้งแต่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค. 2561 (ลูกค้า Rabbit LINE Pay ได้รับสิทธิ์ 1 คน/1 สิทธิ์)
ขณะที่นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวเสริมว่า VIA ถือเป็นการชำระเงินข้ามประเทศผ่านโมบายวอลเลทรายแรกของโลก แม้จะมีธนาคารของแต่ละประเทศพยายามดำเนินการแต่ยังไม่สำเร็จ เบื้องต้นบริการนี้จะขยายไปในประเทศกลุ่มสิงเทลก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการเจรจาโดยประเทศต่อไป คาดว่าประเทศอินโดนีเซียจะใช้งานได้ในสิ้นปีนี้
“เบื้องต้นการใช้งานจำเป็นต้องโหลดแอป เพื่อเป็นตัวกลางในการใช้จ่าย โดยผูกและเติมเงินจากแรบบิท ไลน์ เพย์ เพราะไม่สามารถเติมเงินโดยตรงได้ เนื่องจากแรบบิทฯ มีการใช้ทั้งญี่ปุ่นและไต้หวัน จึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนระบบเพื่อให้ใช้กับประเทศอื่น ๆ ได้ทั้งหมด แต่อนาคตจะปรับให้ใช้ได้โดยตรง อย่างไรก็ตามบริการ VIA จะใช้ชำระเงินได้อย่างเดียว ไม่สามารถโอนเงินให้กันได้ ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนกลางในการทำธุรกรรมผ่านอีวอลเลตนี้ จะต่ำกว่าบัตรเครดิตแน่นอน”
