“เกมเมอร์”ดันตลาดไอทีคึก ชดเชยกระแสบิตคอยน์หด

ลุยจัดคอมมาร์ตปีที่ 18 รับกระแสตลาดไอทีฟื้นกว่า 35 แบรนด์ ร่วมขนสินค้าลดแลกแจกแถมดันยอดผู้เข้าล้านทะลุล้าน หวังเงินสะพัด 3,000 ล้านบาท ด้านแอดไวซ์ชี้ได้อานิสงส์อีสปอร์ตหนุนชดเชยบิตคอยน์แผ่ว

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บมจ.เออาร์ไอพี ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า แม้อีคอมเมิร์ซจะมาแรง แต่งานอีเวนต์ยังมีเสน่ห์ให้ได้ “ดูคนดูของ” จึงเดินหน้าจัด “COMMART WORK 2018″ส่งท้ายปี 1-4 พ.ย.นี้ ก่อนที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ปิดปรับปรุง

“จัดเป็นปีที่ 18 แล้ว บรรดาแบรนด์ค่อนข้างตื่นตัวจองพื้นที่เกือบเต็มแล้ว มีกว่า 35 แบรนด์ อย่าง “คอมเซเว่น” ที่ไม่ได้มาร่วมงานเกือบ 3 ปีแล้วก็กลับมา หลายแบรนด์แตกบูทเพิ่มในส่วนของคอมเมอร์เชียลเพื่อรองรับลูกค้า อย่างเดลล์ ทำให้มีกิจกรรมหลากหลาย คาดว่าผู้เข้าชมงานน่าจะแตะล้านราย เพิ่มจาก 7 แสนราย เงินสะพัด 3,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับครั้งก่อน”

กลุ่มสินค้าที่คาดว่าจะขายดี คือ โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ประกอบ (DIY) โทรทัศน์ มือถือ อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์

“ไอโฟนรุ่นใหม่น่าจะมาขายทันในงาน ส่วนราคาเฉลี่ยคอมพิวเตอร์เพิ่มจาก 3 หมื่นเป็น 35,000 บาท แม้ว่ากำลังซื้อผู้บริโภคจะทรงตัว แต่เกมมิ่งเติบโต เปลี่ยนอะไหล่ทุก 3 เดือน”

ขณะที่ตลาดไอทีปีนี้ค่อนข้างดีขึ้น เพราะสินค้าไอทีผันตัวจากสินค้าแมสมาเป็นสินค้าพรีเมี่ยม ยอดขายคอมพิวเตอร์รวม 2.4 ล้านเครื่องใกล้เคียงปีที่ผ่านมา เป็นเดสก์ทอปและโน้ตบุ๊กอย่างละครึ่ง

ส่วนปี 2562 คาดว่ามูลค่าตลาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ถึงแม้ว่ากระแสบิตคอยน์จะหายไป แต่กระแสอีสปอร์ตกำลังมาแรงทดแทน

โดยเทรนด์ที่มาแรง คือ IOT(อินเทอร์เน็ตออฟทิงส์) แต่อาจจะยังไม่โตก้าวกระโดดเพราะยังไม่ค่อยมีสินค้าจากแบรนด์ใหญ่ และยังเทรนด์ AI บิ๊กดาต้า ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชั่น

ด้านนายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวว่า กระแส DIY เริ่มแผ่วตั้งแต่ไตรมาส 2-3 เพราะหมดกระแสบิตคอยน์ อีกทั้งซีพียูของอินเทลคอร์ไอ 3 กับเพนเทียมขาดตลาด ส่งผลให้อุปกรณ์แพงขึ้นในไตรมาส 4 แต่โน้ตบุ๊กเกมมิ่งโตมาก เพราะราคาถูกลงกว่าครึ่ง เหลือ 25,000-26,000 บาท

ขณะที่ราคาเฉลี่ยในตลาดรวมอยู่ที่ 15,900-16,900 บาท จากอดีตราคาเฉลี่ย 12,900 บาท ส่วนคอมฯ DIY อยู่ที่ 14,000-15,000 บาท จากเดิม 10,900 บาท ในส่วนของการแข่งขันของแบรนด์ตอนนี้อยู่ที่ดีไซน์ สเป็กที่สอดคล้องกับราคา

สำหรับยอดขายของแอดไวซ์ในปีนี้ที่มุ่งด้านเกมที่โตขึ้นระดับ 1 ดิจิต แต่ออนไลน์โต 2 ดิจิต เป็น 10% ของยอดขายแล้วเพราะส่งได้ภายใน 3 ชั่วโมงสำหรับกรุงเทพฯและปริมณฑล นอกจากนี้

ทั้งยังมีจุดแข็งที่ความเชื่อถือของแบรนด์ ปัจจุบันแอดไวซ์มี 380 สาขา โดยเป็นสาขาตัวเอง 112 สาขา ที่เหลือเป็นแฟรนไชส์