ไอซีที

ศึกพรีเมี่ยมสมาร์ทโฟนระอุ “หัวเว่ย” ไล่เก็บแชร์ท้ารบคู่แข่ง

ในสมรภูมิธุรกิจโทรศัพท์มือถือระดับพรีเมี่ยม (ราคาสูงกว่า 2 หมื่นบาท) มังกรจีน “หัวเว่ย” ย้ำว่ามีแค่ 3 แบรนด์ที่ผู้บริโภคไทยยอมควักกระเป๋าซื้อ และหัวเว่ยคือหนึ่งในนั้น ซึ่งทั้งในบ้านเราและตลาดโลกต่างขับเคี่ยวมายาวนาน โดยเฉพาะ 2 แบรนด์คู่แข่ง เมื่อแบรนด์หนึ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีกแบรนด์ก็ไม่รีรอที่จะส่งรุ่นใหม่มาประชันบ้าง

ล่าสุดหลังแนะนำตัวในตลาดโลกไปแล้ว “หัวเว่ย” ขน Mate 20 Series สมาร์ทโฟนเรือธง 3 รุ่นใหม่เข้ามาในบ้านเราบ้าง ได้แก่ Mate20 (ราคา 24,990 บาท), Mate20x (ราคา 28,990 บาท) และ Mate20Pro (ราคา 31,990 บาท)เรียกว่าเปิดตัวพร้อมรับพรีออร์เดอร์ (26 ต.ค.-4 พ.ย.) แบบไม่เกรงใจยักษ์แอปเปิล ที่นัดรับเครื่องในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

โดยโชว์ฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ที่ระบุว่าเป็นครั้งแรกในโลกหลายอย่าง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี อาทิ Kirin 980 ชิปเซต AI คู่ครั้งแรกของโลก, แบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ที่มาพร้อมระบบชาร์จเร็ว (supercharge) ให้กำลังไฟฟ้าถึง 40 วัตต์, wireless reverse charging ที่ชาร์จแบบไร้สายได้ และรองรับการใช้งานในระบบ 4.5G (ทุกรุ่นกันน้ำและฝุ่น)

ยังไม่รวมสิ่งที่ทำให้หัวเว่ยได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคจนทุกวันนี้ นั่นคือความสามารถในการถ่ายภาพ ได้แก่ กล้องหลัง 3 ตัว Leica Triple Camera ที่มีเลนส์ถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ (ultra wide) และการถ่ายภาพแมโคร เป็นต้น

และด้วยคุณสมบัติทั้งหลายของสมาร์ทโฟนในตระกูลนี้ ทำให้ “ทศพร นิษฐานนท์” รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย เพิ่มงบประมาณด้านการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมทั้งตั้งเป้ายอดขายไว้มากกว่าเดิมถึงกว่า 3 เท่า เทียบกับที่เคยมีกับตระกูล Mate 10 ก่อนหน้านี้

โดยยังคงเป้าหมายที่ต้องการผลักดันให้ “หัวเว่ย” ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำตลาดให้ได้ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า หรือปี 2020

“เราเชื่อว่า Mate20 ทั้ง 3 รุ่นจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคด้วยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในหลายด้าน ซึ่งจะผลักดันให้ยอดขายรวมของเราในปีนี้เติบโตมากกว่า 50% รักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับสองทั้งในตลาดโลกและตลาดเมืองไทยเอาไว้ได้ จากการมีสินค้าครอบคลุมทุกระดับราคาและกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ระดับกลาง และพรีเมี่ยม”