กำลังซื้อไอทีสมาร์ทโฟนทรงตัว ปี”62 ไล่บี้ตลาดบนค่ายมือถือย้ำขายพ่วง

สมาร์ทโฟน-ไอที ปี”62 ยังทรงตัว บีบทั้งแบรนด์-ค้าปลีกแข่งเดือดชิงแชร์ แห่ปั้นโปรโมชั่น “ขายพ่วง” ลุยอัพเกรดบริการสร้างแบรนด์ดึงลูกค้า ย้ำหมดยุค “ตัดราคา-สินค้าถูก” ขณะที่ตลาดบน-เกมช่วยหนุนกำลังซื้อ

นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บมจ.เจมาร์ท เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวโน้มตลาดสมาร์ทโฟนปี 2562 น่าจะทรงตัวเหมือนปี 2561 ที่ประเมินว่า มียอดขายรวม 17 ล้านเครื่อง ติดลบ 5% มีมูลค่าทรงตัวราว 1.2 แสนล้านบาท เติบโตในอัตราเลขหลักเดียว เนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนเครื่องใหม่น้อยลง เฉลี่ยใช้งาน 2 ปี เพราะไม่มีเทคโนโลยีใหม่มากระตุ้น แต่ยังคงโตในแง่มูลค่า ด้วยกลุ่มเรือธงแต่ละแบรนด์ราคาสูงขึ้นจาก 2 หมื่นต้น ๆ เป็น 3-5 หมื่นบาท

“ตัวเครื่องดีขึ้น คนก็เริ่มเปลี่ยนไปใช้รุ่นที่แพงขึ้น หรือไม่ก็เลือกที่จะซื้อถูกไปเลยเพราะคุ้มค่า ทำให้กลุ่มราคา 7,000-10,000 บาทโตติดลบ แต่กลุ่ม 5,000-7,000 บาทและ 10,000-15,000 บาท จะแข่งขันกันมากขึ้น”

ตลาดหด-แข่งเดือดแย่งแชร์

ในปี 2562 ยิ่งแข่งขันดุเดือด เพราะตลาดโตน้อยต้องแย่งมาร์เก็ตแชร์ จะแข่งกัน “ซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจ” ซึ่งจะกระทบกับบรรดา “ร้านตู้” โดยปัจจุบันสัดส่วนยอดขายมาจากฝั่งค่ายมือถือราว 20% ส่วนรีเทลรวมร้านตู้อยู่ที่ 50% ที่เหลือมาจากเพาเวอร์มอลล์ต่าง ๆปีนี้เจมาร์ทจะปรับกลยุทธ์ให้ยอดขายโตตามเป้า หลังเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ตเนอร์กับ “เอไอเอส” โดยกระตุ้นร้านลูกตู้ใน “ไอที จังค์ชั่น” เพิ่มยอดขายเบอร์ใหม่ของเอไอเอสให้มากขึ้น และใช้ช่องทางของ “ซิงเกอร์” กระจายสินค้าเข้าถึงแหล่งชุมชน โดยขายพ่วงกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ

“การจับมือกับเอไอเอสจะเห็นชัดขึ้น จะทำโปรโมชั่นลดราคาเครื่องที่แรงพอจะแข่งขันในตลาดได้ ปีนี้จะเปิดสาขาเพิ่มไม่เกิน 10-20 แห่ง รีโนเวตอีก 50 สาขา จากที่มี 200 สาขา และขายอุปกรณ์เสริมมากขึ้น”

OPPO บุกตลาดบน

ด้านนายชานนท์ จิรายุกุล ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายขาย บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด สมาร์ทโฟนแบรนด์ OPPO กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมาตลาดสมาร์ทโฟนติดลบในแง่จำนวนเครื่องราว 5% ต่อเนื่อง มูลค่าตลาดก็โตหลักเดียว ปีนี้น่าจะทรงตัวทั้งคู่ เพราะยังไม่มีปัจจัยบวก นอกจากโอเปอเรเตอร์แข่งกันซับซิไดซ์ราคาเครื่อง”กลุ่มรากหญ้าไม่มีกำลังซื้อ แนวโน้มเวลาเปลี่ยนเครื่องใหม่จะยิ่งนาน ราคาเฉลี่ยก็ไม่โตแบบก้าวกระโดด”

ขณะที่ในปี 2561 ออปโป้เติบโต 2 หลัก ทั้งด้านจำนวนเครื่องและรายได้ เป็นที่ 2 ของตลาด ขณะที่เบอร์ 1 ในตลาดมีมาร์เก็ตแชร์ลดลงต่อเนื่องเป้าหมายสำคัญคือตลาดกลุ่มแฟลกชิปราคา 20,000 บาทขึ้นไป หลังจากแข็งแรงในกลุ่มล่างถึงกลางแล้ว โดยจะไม่โฟกัสที่ฮีโร่โมเดลรุ่นใดรุ่นหนึ่งแบบเดิม แต่จะปูพรมในกลุ่มบนมากขึ้น

ปี”62 ไร้ปัจจัยบวก-ลบ

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น กล่าวว่า ตลาดสินค้าไอทีปี 2562 น่าจะโตได้ 10% ใกล้เคียงปีก่อน เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกหรือลบที่ชัดเจน คาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 15 ล้านเครื่อง คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก 2 ล้านเครื่อง

“ค้าปลีกไอทีไม่ได้แข่งกันหวือหวา และไม่น่าจะรุนแรงกว่านี้เพราะผู้เล่นมีเท่าเดิม ส่วนปัจจัยการเมืองไม่น่าจะมีผล เพราะผู้บริโภคอยากจะเปลี่ยนเครื่องหรืออัพเกรดมาจากนวัตกรรม”

คอมเซเว่นตั้งเป้าปีนี้โตอีก 10% จากปี 2561 ที่โตได้ 20% และเตรียมงบประมาณ 200 ล้านบาท สำหรับขยายสาขาเพิ่มอีก 80 แห่ง จากที่มี 500 สาขา และปรับปรุง banana shopping.com

สงครามการค้าหนุนแบรนด์จีน

ด้านนายสมยศ เชาวลิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ.ไอ.บี.คอมพิวเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอที กล่าวว่า กำลังซื้อปีนี้น่าจะทรงตัว สินค้าไอทีราคาสูงต่อเนื่อง แต่ตลาดบนยังมีกำลังซื้อ

“ตลาดบน 1-2 ปี ก็เปลี่ยนเครื่องใหม่ แต่กลุ่มล่างอาจ 3-4 ปีเปลี่ยน แต่จะไม่กลับไปสู่ยุคที่ราคาสินค้าถูกแล้ว ส่วนตลาดรวมต้องรอว่ามีการเลือกตั้งหรือไม่ ถ้ามี กำลังซื้อน่าจะมากขึ้น”

ส่วนสงครามการค้ายังไม่กระทบ แต่ในอนาคตอาจจะกระทบกับแบรนด์ฝั่งโลกตะวันตกที่มีฐานผลิตในจีน จึงเป็นไปได้ที่ราคาสินค้าอาจจะสูงขึ้น ซึ่งผู้บริโภคก็จะหันไปเลือกแบรนด์จีนแทน

“เกมมิ่งทำให้ตลาดโต ปีนี้ยิ่งแข่งแรง ไม่ใช่ที่ราคา แต่เป็นการสร้างแบรนดิ้ง”

ทั้งเตรียมงบฯลงทุนกว่า 350 ล้านบาท เน้นยอดขายทางออนไลน์มากขึ้น จาก 100 ล้านบาท/เดือน เติบโต 35% เป็นโต 40% และมียอดขาย 300 ล้านบาท ภายใน 2 ปี ส่วนสาขาจะเพิ่มอีก 15 แห่ง จากเดิม 145 แห่ง

“เกม-บางเบา” หนุนตลาด

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดโน้ตบุ๊กทรงตัวมา 3 ปีแล้วในแง่จำนวน ปี 2562 น่าจะยังอยู่ที่ 2.4 ล้านเครื่อง แต่มูลค่าตลาดเติบโตจากสินค้ากลุ่มเกมมิ่งที่โตอย่างมีนัยสำคัญ และกลุ่มบางเบาที่ราคาเฉลี่ยสูงแตะ 2 หมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นสัดส่วน 30% ของตลาด แต่สำหรับเอเซอร์มีสัดส่วนถึง 50% ซึ่งปีนี้จะลุยทำตลาดเกมมิ่งเกียร์เต็มที่

“ฝั่งไอทีเป็นเทรนด์ทั่วโลก ถูกผลักให้โตด้วยคอนเทนต์เกมไม่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจในประเทศอย่างเดียว ขณะที่การเปลี่ยนเครื่องรุ่นใหม่ให้ดีขึ้นและราคาสูงขึ้น ทำให้ตลาดยังอยู่ได้ ส่วนการแข่งขันทุกแบรนด์มุ่งไปที่เกมมิ่งและกลุ่มบางเบามากขึ้น แต่คงไม่ตัดราคา ซึ่งหลายแบรนด์กำลังรอดูความชัดเจนสงครามการค้าจีน-สหรัฐ เพราะส่วนใหญ่มีฐานผลิตจากจีน ซึ่งก็อาจเป็นผลดีกับไทย หากมีการย้ายฐานการผลิตมาอยู่ที่ไทยหรือใกล้เคียง”

เร่งปั๊มยอดออนไลน์

นายจักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวว่า ตลาดปี 2562 ยังทรงตัว มีสินค้าเกมมิ่งขับเคลื่อน และมีแนวโน้มที่ราคาเฉลี่ยต่อเครื่องจะสูงขึ้น ซึ่งทำให้ตลาดยังแข่งขันรุนแรง แต่ผู้บริโภคไม่ได้มองหาสินค้าราคาถูกแบบเดิม ผู้เล่นแต่ละรายจึงโฟกัสการสร้างความน่าเชื่อถือของร้านค้าและบริการ พร้อมปูทางไปสู่ช่องทางออนไลน์ ตั้งเป้าเฉพาะช่องทางนี้ 2 พันล้านบาท เพิ่มจาก 1.3 พันล้านบาทในปีที่แล้ว

รวมถึงปรับปรุงหน้าร้านให้ทันสมัยสอดรับกับตลาดเกม ทั้งยังเพิ่มสัดส่วนสินค้าสมาร์ทโฟนให้มากขึ้น จากเดิมมีแค่ 4-5% และเปิด Advice Office Mode เพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้อุปกรณ์สำนักงาน ส่วนรายได้รวมตั้งเป้าที่ 1.5 หมื่นล้านบาท โต 10-15%

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!