ส่อง e-Commerce จาก 2018 สู่ 2019 (จบ)

คอลัมน์ Pawoot.com

โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

นอกจากศึกโซเชียลคอมเมิร์ซจะระอุยิ่งขึ้นแล้วในปีนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกบ้างมาว่ากันต่อ สินค้าจีนจะบุกหนักกว่าเดิม

เริ่มเจอสินค้าจีนบุกเข้ามาในโลกออนไลน์ ในอีมาร์เก็ตเพลซของไทยมากขึ้นจากที่เคยทะลักมาหลายสิบล้านชิ้น เจ้าของโรงงานจากจีนคงกระหน่ำเข้ามา มีการตั้งทีมมาโฟกัสการขายสินค้าในอาเซียนเพิ่มขึ้นทั้งมาทำข้อมูล มาแปลภาษา ฯลฯ เพื่อเจาะกลุ่มให้เหมาะกับคนไทยเพิ่มขึ้น

สงครามออนไลน์-ออฟไลน์

การแข่งขันของมาร์เก็ตเพลซใหญ่ที่ไปกระทบกับโลกออฟไลน์ กำลังซื้อที่เมื่อก่อนอยู่ตามตลาดนัด ตามห้างจะไปอยู่ในออนไลน์เพิ่มขึ้นเพราะสะดวกมากกว่า ผู้ที่ทำธุรกิจในปัจจุบันจะเจอกับคู่แข่งที่เป็นออนไลน์มากขึ้น แบรนด์ต่าง ๆ จะเริ่มกระโดดมาทำอีคอมเมิร์ซ เจ้าของสินค้าเปิดช่องทางเว็บไซต์ของตนเองมากขึ้น หลายแบรนด์เข้ามาขายตรงกับผู้บริโภคเลย นั่นหมายถึงคนที่เป็นตัวแทนสินค้า ดีลเลอร์ ยี่ปั๊ว ฯลฯ ต้องเตรียมตัวได้เลยว่าแบรนด์จะลงมาขายตรง

Cross Border เริ่มเบ่งบาน

จะเป็นปีที่การค้าขายระหว่างประเทศเริ่มเบ่งบาน หลายแบรนด์เริ่มขยายสินค้าไปขายต่างประเทศแต่อาจเป็นเพียงการเริ่มต้น เพราะผู้ให้บริการอย่าง Amazon หรือ eBay ก็เริ่มบุกเข้ามาในประเทศไทยแต่เป็นการพาผู้ประกอบการไทยให้ออกไปขายต่างประเทศ และผู้ประกอบการไทยจะเริ่มผสมออนไลน์เข้ากับออฟไลน์มากขึ้นหรือเป็น O2O marketing เช่น สั่งซื้อออนไลน์แต่มารับหน้าร้าน ปีนี้จะเริ่มเจอพฤติกรรมคนที่ผสานออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกันมากขึ้น

ปรับตัวรับ กม.เก็บภาษีออนไลน์

การชำระเงินในช่วงต้นปีจะยังเติบโต แต่ช่วงกลางปีคนไทยต้องเริ่มมีการปรับตัวกับกฎหมายการเก็บภาษีสินค้าออนไลน์ที่สรรพากรจะเข้ามาตรวจสอบบัญชีต่าง ๆ ทำให้ผู้ให้บริการขายของออนไลน์หลายคนน่าจะมีการตัดสินใจบางอย่าง ผมเชื่อว่าปลายปีจะมีคนเปิดบัญชีธนาคารเพิ่มขึ้นเพื่อกระจายรายได้ออกไปในหลายธนาคาร และจะมีคนเปิดบริษัทเพิ่มขึ้นด้วยในปีนี้เพราะอยากทำให้ถูกต้อง ปลาย ๆ ปีตัวเลขของพร้อมเพย์หรือคิวอาร์โค้ดจะโตน้อยลง คนจะหันมาใช้เงินสดมากขึ้น

ฉะนั้นช่วงปลายปี พ่อค้าแม่ค้าหลายคนต้องดูว่ารัฐบาลจะเอาอย่างไรกับกฎหมายตัวนี้ ในฝั่งของธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินเองก็ต้องปรับตัวด้วย เพราะตอนนี้ยังไม่มีระบบที่จะเข้ามารองรับกฎหมาย

โฆษณาออนไลน์จะเก่งมากขึ้น อย่างของกูเกิล ตอนนี้เมื่อค้นหาในกูเกิลจะพบสินค้าแล้ว เพราะเริ่มเปิดตัว Google product search หรือ Google shopping ที่กดปุ๊บซื้อได้เลย ฉะนั้น โฆษณารูปแบบใหม่ ๆ ที่จะมาตอบสนองอีคอมเมิร์ซจะเปิดตัวมากขึ้น

และเก่งขึ้น เริ่มมี AI, Chatbot หรือบริการที่เอา data มาวิเคราะห์ทำให้เจ้าของสินค้าเข้าถึงลูกค้าง่ายขึ้น เข้าใจลูกค้ามากขึ้น เริ่มทำ marketing automation ที่จะมีการใช้คนน้อยลง ฉะนั้นปีนี้บอกได้เลยว่าเครื่องมือเก่งขึ้น ช่องทางดีขึ้น ระบบชำระเงินดีขึ้น คนพัฒนามากขึ้น การแข่งขันสูงขึ้น ทุกอย่างจะไปเร็วกว่าเดิม

นอกจากนี้ การแข่งขันอีคอมเมิร์ซก็จะรุนแรงมากขึ้นด้วย จะมีผู้เล่นใหม่เพิ่มเข้ามา ตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านเราหลายประเทศก็เริ่มพยายามเอาสินค้าของเขาออกมาขายในบ้านเราแล้ว

ถึงตรงนี้อยากให้ทุกท่านทบทวนดูว่า ธุรกิจของท่านทำอะไรไปแล้วบ้าง ลงทุนไปเท่าไหร่ ทำการตลาดออนไลน์เท่าไหร่ ยอดขายเป็นอย่างไร ใช้เม็ดเงินซื้อโฆษณาออนไลน์เท่าไหร่ ฯลฯ และนำสิ่งที่ได้จากการทบทวนนี้มาปรับปรุง อะไรที่ยังไม่มีก็ควรจัดหา ถ้ายังไม่มีผู้ช่วยก็ต้องหา เพราะการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นอีกมากเลยนะครับ