ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะเรียกคืนคลื่นความถี่ 700 MHz จากช่องทีวีดิจิทัลเพื่อให้ค่ายมือถือมาประมูลไปใช้ทำ 5G แล้วจะนำเงินประมูลที่ได้กลับมาเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล แต่ทุกอย่างก็ยังดูไม่ชัดเจน เริ่มตั้งแต่กรอบเวลาการประมูลของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และบอร์ด กสทช.ยังขัดแย้งกัน แถมค่ายมือถืออย่าง “เอไอเอส-ทรู”
ยังย้ำว่า “เร็วเกินไป” สำหรับ 5G โดยเฉพาะฝั่ง “ทรู” ที่ยืนยันว่า “ถ้าไม่ยืดเวลาจ่ายเงินประมูล 900 MHz ก็จะไม่เข้าประมูลคลื่นใหม่”
ล่าสุด NBTC Public Forum เปิดวงเสวนาว่าด้วยเรื่อง ย้ายคลื่น 700 MHz ใครได้ใครเสีย และมีผลกระทบอย่างไรต่อผู้บริโภค โดย “ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์” ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า ความพยายามเร่งรัดประมูลคลื่นของ กสทช.
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
เพื่อให้มีเงินมาชดเชยทีวีดิจิทัลให้อยู่ได้ เหมาะสมหรือไม่ ทั้งที่เป็นช่วงโค้งท้ายของรัฐบาลและบอร์ด กสทช. แม้ว่าการเรียกคืนคลื่นที่ใช้ประโยชน์ไม่เต็มประสิทธิภาพไปใช้งานด้านอื่นที่สร้างมูลค่าได้สูงกว่าเป็นหลักการที่ดี
“เร็วเกินไปทั้งฝั่งที่ต้องย้ายออก ทั้งช่องทีวีดิจิทัล MUX (โครงข่าย) และผู้ชม ที่อาจจะต้องใช้เวลากว่า 20 เดือน ขณะที่ 5G ก็เร็วเกินไปมาก ๆ แม้เทคโนโลยีจะเด่น แต่ในวงการรู้ว่า ยังไม่เจอการประยุกต์ใช้ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีได้ (used case) ทำให้โอเปอเรเตอร์ยังลังเลที่จะลงทุน 5G ในเวลานี้”
“โรดแมป 5G” : กสทช.ควรทำ
สิ่งที่ กสทช.ควรจะทำ คือ ทำโรดแมป 5G ภาพรวมทั้งหมด ไม่ใช่ทำเฉพาะ 700 MHz เพราะ 5G จำเป็นต้องใช้ทั้งย่านคลื่นความถี่ต่ำ-กลาง-สูง แต่ละย่านจะมีคลื่นใดบ้าง ราคาเริ่มต้นจะเท่าไร เมื่อไม่ชัดเจนถือเป็นความเสี่ยงของผู้ประกอบการ และเสี่ยงที่ กสทช.จะ “ด้น” ไปเรื่อย ๆ จนทำให้งานขัดกันเอง
ที่สำคัญ ควรเปิดให้ผู้ประกอบทีวีดิจิทัลสามารถคืนใบอนุญาต โดยไม่ต้องจ่ายชดเชย แต่ให้จ่ายค่าไลเซนส์ที่เหลือจากสัดส่วนเวลาที่เหลืออยู่
ส่วนช่องทีวีดิจิทัลรายใดต้องการทำธุรกิจต่อแล้วต้องมีการเปลี่ยนอุปกรณ์รับคลื่นใหม่ ถึงควรจะต้องเอาเงิน กสทช. หรือเงินประมูล 5G ไปอุดหนุน
“ไทยประมูล 3G ช้าเหลือเกิน พอ 5G ก็จะมาประมูลให้เร็วเหลือเกิน ทำเหมือนว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ของใครที่อยากจะให้เร็วให้ช้าก็ได้หมด ประเทศที่ประมูล 5G ตอนนี้ล้วนแต่ผลิตอุปกรณ์ 5G ขาย ไทยรออีก 2 ปีก็ได้”
อย่าทำตัวเป็นผู้ถือหุ้น
ที่สำคัญ ไม่ต้องวิตกจริตเยอะเรื่องประมูล ถึงขั้นต้องไปทำตัวเป็นธนาคาร ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ขอแค่ให้ทำหน้าที่ขององค์กรกำกับดูแลที่ดี เช่น ลดต้นทุนจากความไม่แน่นอนของกฎระเบียบการกำกับดูแล มีโรดแมปชัดเจน รวมถึงการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน
“กสทช.ไม่ต้องพยายามทำตัวเป็นผู้ที่ถือหุ้นของบริษัทโทรคมนาคม หรือช่องทีวีดิจิทัล ไม่ต้องไปยืดระยะเวลาชำระเงินประมูล 4G ให้เจ้าสัว กสทช.ไม่ควรเป็นคนชงเรื่องให้ คสช. ยิ่งถ้า พล.อ.ประยุทธ์จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วมาอุ้มบริษัทโทรคมนาคมจะกลายเป็นตราบาปติดตัว”
คสช.ควรยกเลิก ม.44 ที่ยืดอายุบอร์ด กสทช. เพราะเกิดคำถามว่า บอร์ดรักษาการมีอำนาจจัดประมูลใหม่หรือไม่
ต้องมี RIA วิเคราะห์ผลกระทบ
“สุภิญญา กลางณรงค์” กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ประธานคณะทำงานคุ้มครองผู้บริโภคสื่อ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และอดีต กสทช. กล่าวว่า ถ้าใช้คลื่นที่กันไว้สำหรับทีวีสาธารณะชุมชนมาให้ช่องทีวีธุรกิจใช้แทน คนที่ควรจะได้เยียวยา คือ ชุมชนที่ไม่ได้ใช้คลื่น ไม่ใช่ช่องทีวีธุรกิจ
“การรีบนำคลื่น 700 MHz มาประมูล ถือเป็นการยูเทิร์น 180 องศาอย่างรวดเร็ว เพราะก่อนนี้เคยยืนยันว่า จะใช้ต่อจนถึงปี ค.ศ. 2020 ถึงได้ให้ไลเซนส์ทีวี 15 ปี และเมื่อเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ควรมี RIA วิเคราะห์ผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยังไม่เห็น”
การเร่งผลักดันจะกลายเป็น “ขายฝัน” เพราะการจะชดเชยให้ทีวีดิจิทัลถึง 4 หมื่นล้านบาท ในทางปฏิบัติจะติดข้อจำกัดทางกฎหมายและเทคนิค
“การพยายามจัด 5G จะทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี อย่างกูเกิล เฟซบุ๊ก กลายเป็นคอนเทนต์โพรไวเดอร์ผ่านบริการ OTT โดยไม่ต้องเสียภาษี ไม่มีต้นทุนอะไรเลย เท่ากับปล่อยให้ทีวีแบบเดิมสู้กับ OTT โดยยังไม่มีมาตรการป้องกันหรือรับมือใด ๆ ยิ่งจะเยียวยา MUX ยิ่งน่ากังวล เพราะทุกวันนี้ช่องจ่ายค่าเช่าแพงยังมีปัญหาคุณภาพ ถ้าต่อไปมีคนจ่ายแทนให้ คุณภาพจะเป็นอย่างไร การกำกับของ กสทช.ยังอ่อนแอ”
สิ่งที่ กสทช.ต้องทำ คือ ต้องปูพรมโครงข่ายให้ละเอียด มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อให้คนดูมากขึ้น แก้ปัญหาทีวีดิจิทัลให้ตรงจุด การใช้เงินกองทุนของ กสทช.มาสนับสนุนการสร้างคอนเทนต์ที่ดี การกำกับ OTT ที่ทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม มีการเสียภาษี ที่ไม่ใช่แค่การไปเซ็นเซอร์
“เป็นงานที่โจทย์เยอะ ไม่ควรเป็นงานของบอร์ดรักษาการ สิ่งที่เห็นตอนนี้กลุ่มโทรคมมีอำนาจต่อรองกับ กสทช.มาก ต่างกับฝั่งบรอดแคสต์”
เยียวยาทีวีดิจิทัลขัด รธน. ?
กสทช. “ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา” กล่าวว่า ปัญหาทีวีดิจิทัลมีความซับซ้อน การจัดประมูลเมื่อ 5 ปีก่อน ณ เวลานั้น คลื่น 700 MHz ยังระบุให้เป็นคลื่นด้านบรอดแคสต์ ขณะที่เป็นจังหวะที่ทีวีกำลังถูกดิสรัปต์ และยังมีปัญหาค้างอยู่ที่ศาลปกครอง ในคดีของ “ไทยทีวี” ว่า ผู้ประกอบการจะคืนไลเซนส์ได้ไหม ต้องจ่ายเงินที่เหลือหรือไม่ ทุกอย่างจึงผูกกันไปหมด
“ก่อนหน้านี้ องค์กรกำกับของสหรัฐอเมริกา FCC ก็เคยเปิดให้ช่องทีวีที่ต้องการคืนไลเซนส์เสนอราคากลับมาได้ โดย FCC จะซื้อช่องที่ยอมขายราคาถูกสุด และเมื่อได้มาแล้วก็จะนำช่องที่คืนไปให้ฝั่งโทรคมนาคมที่ยอมจ่ายแพงสุดได้ไป เงินส่วนต่างก็จะเข้ารัฐ”
ทุกวันนี้ยังไม่เห็นข้อสรุป โดยเฉพาะที่มีท้วงติงว่า การเยียวยาทีวีดิจิทัลอาจเข้าข่าย มาตรา 45 วรรคท้ายของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุห้ามรัฐอุดหนุนสื่อมวลชน เป็นอีกประเด็นที่จำเป็นต้องตีความ