เข้าถึงสวัสดิการรัฐ ผ่าน mRelief

คอลัมน์ สตาร์ทอัพปัญหาทำเงิน โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

แสตมป์ซื้ออาหารฟรีเป็นหนึ่งในสวัสดิการที่รัฐบาลอเมริกามีให้กับคนยากจน ฟังดูดีใช่มั้ยคะ แต่เฉกเช่นนโยบายรัฐทั่วไปที่เหมือนตั้งออโตไว้ว่าต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากเข้าไว้ ดังนั้น กว่าประชาชนจะได้แสตมป์นี้มาครอบครองจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

เริ่มจากต้องไปยืนเข้าคิวหลายชั่วโมงเพียงเพื่อจะเช็กว่ามีคุณสมบัติที่จะได้รับสิทธิไหม

จากนั้นก็ยื่นเอกสารอีก 10 อย่าง กรอกใบสมัครอีกเกือบ 20 หน้า ตามด้วยสัมภาษณ์อีกชั่วโมงครึ่ง กว่าจะเสร็จพิธีกรรมต่าง ๆ ก็หมดแรงไปตาม ๆ กัน

ความยุ่งยากนี้ทำให้งบประมาณที่ตั้งไว้มีเหลือบานเบอะถึงปีละ 13,000 ล้านเหรียญ ส่วนใหญ่เพราะเข็ดขยาดไม่อยากเสียเวลามาเคลมสิทธิ และมีอีกไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิจะเคลม

สตาร์ตอัพที่เราจะพูดถึงในวันนี้ มีชื่อว่า mRelief จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะต่างจากสตาร์ตอัพทำเงินทั่วไป mRelief ไม่ได้มีเป้าหมายในการสร้างรายได้หรือผลกำไร หากแต่เป็นองค์กรที่ทำงานร่วมกับภาครัฐในการทำให้คนยากจนเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

“โรส แอฟไรห์” หนึ่งในผู้ก่อตั้งบอกว่า สวัสดิการของรัฐควรเป็น “สิทธิ” ที่ประชาชนพึงมีพึงได้ ไม่ใช่การ “ให้ทาน” แก่ผู้ยากไร้ ดังนั้น กระบวนการต่าง ๆ ที่จะกระจายสิทธินี้ออกไปก็ควรเป็นไปโดยเสมอภาคและคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน

ที่สำคัญ ทุกคนที่มารับสิทธิไม่ควรรู้สึกอับอายหรือถูกทำให้อึดอัดด้วยกระบวนการที่ชักช้าเสียเวลาทำมาหากิน

เธอกับเพื่อนอีก 2 คนจึงร่วมกันพัฒนาระบบที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านหน้าเว็บหรือ SMS เพื่อช่วยให้คนสามารถเช็กสิทธิของตัวเองและทำเรื่องเคลมได้ในเวลาไม่กี่นาที

ที่ไม่ทำเป็นแอปพลิเคชั่นบนมือถือ เพราะคนหาเช้ากินค่ำบางทีก็ไม่มีเงินจ่ายค่าบริการมือถือ ทาง mRelief เลยพัฒนาระบบบน SMS ต่อให้เป็นโทรศัพท์รุ่นโบราณ ไม่มีอินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงบริการได้ตลอด

วิธีการใช้งานก็ง่ายแสนง่าย เพียงตอบคำถามไม่เกิน 5 ข้อเพื่อเช็กคุณสมบัติ หากผ่านเกณฑ์ทางระบบก็จะช่วยส่งเอกสารที่จำเป็นในการสมัครเพื่อขอเคลมสิทธิให้ จากนั้นทีมงานจะส่งนัดหมายมาทาง SMS เพื่อขอสัมภาษณ์สั้น ๆ ทางโทรศัพท์ เสร็จแล้วก็จะส่งบัตร (ถึงจะเรียกว่า food stamp แต่มันจะมาเป็นรูปของบัตรเดบิต) มาให้ถึงบ้าน

หากใครอยากจะไปสัมภาษณ์หรือรับบัตรที่สำนักงานเขตเอง ทาง mRelief ก็จับมือกับ Lyft (สตาร์ตอัพที่ให้บริการแท็กซี่เหมือน Uber) ในการจัดรถรับส่งให้ฟรี ๆ

นอกจากนี้ mRelief ยังเป็นพันธมิตรกับ DoorDash สตาร์ตอัพด้าน food delivery เพื่อให้คนที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์สามารถได้เครดิตสั่งซื้ออาหารจาก DoorDash ได้ระหว่างรอบัตรด้วย

การจับมือเป็นพันธมิตรกับทั้งภาครัฐและสตาร์ตอัพด้วยกัน ทำให้บริการของ mRelief ช่วยให้คนเข้าถึงสวัสดิการของรัฐคิดเป็นเงินถึง 65 ล้านเหรียญแล้ว หลังจากก่อตั้งในปี 2014 ปัจจุบันบริการของ mRelief ครอบคลุม 42 รัฐ และคาดว่าจะขยายตัวออกไปอีกในอนาคตอันใกล้