คอลัมน์ สตาร์ทอัพปัญหาทำเงิน
โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ
การขายของออนไลน์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สำหรับวัยรุ่นสมัยนี้ e-Commerce รุ่นพ่ออย่าง eBay, Gumtree หรือ Craigslist กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สุดแสนจะเชย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
สตาร์ตอัพที่เราจะพูดถึงในวันนี้จึงพัฒนาแอปขายของที่เหมาะกับคน Gen Z (อายุไม่เกิน 25) เพราะมีหน้าตาคล้ายโซเชียลมีเดียยอดนิยมอย่าง IG ที่เน้นการสร้างตัวตนใน community และในขณะเดียวกันก็เป็นช็อปปิ้ง แพลตฟอร์มให้ขายของเหมือนอีคอมเมิร์ซทั่วไป
Depop เปิดให้บริการปี 2011 ในอิตาลี แต่ “ไซมอน เบ็คเกอร์แมน” ผู้ก่อตั้งย้ายสำนักงานใหญ่มาที่ลอนดอนเมื่อ 4 ปีก่อนหลังได้ทุน 8 ล้านเหรียญจากนักลงทุนในอังกฤษ และแจ้งเกิดเต็มตัวในปี 2014 ได้รับการเสนอให้เป็นแอปพลิเคชั่น แนะนำบน App Store เริ่มมีบล็อกเกอร์
หลายคนเขียนถึง Depop จัดเป็นแอปโซเชียลรุ่นแรกที่จับให้คนซื้อและคนขายมาเจอกันผ่านมือถือ เน้นสร้าง fashion community ที่ให้วัยรุ่นได้ปล่อยของและแสดงความคิดสร้างสรรค์ควบคู่ไปกับการเป็นช่องทางให้ทำมาหากิน
มีหน้าแนะนำแฟชั่นฮิป ๆ พร้อมทำนายเทรนด์ที่คิดว่ากำลังจะมาแรงทำให้ดูไม่ hard sales เกินไป แถมใช้งานไม่ยุ่งยากเลยกลายเป็นแพลตฟอร์มที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายไปเต็ม ๆ
จุดขายอีกอย่าง คือ ขายแต่ “เสื้อผ้ามือสอง” ซึ่งเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มมากในสมัยนั้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้มองว่า “second hand ต้องเป็น second best” เสมอไป แต่มองว่าการใส่เสื้อผ้า “มือสอง” ก็ทันสมัยและดูดีได้ แถมยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรและเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างหนึ่งด้วย
นอกจากจะประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายในแง่ของยอดขายแล้วยังทำให้พ่อค้าแม่ค้าวัยละอ่อนกลายเป็น influencers ชั่วข้ามคืนหลายคนมีผู้ติดตามเยอะกว่าเซเลบบางคน เฉพาะในอังกฤษพ่อค้าแม่ค้าตัวท็อปทำเงินได้กว่า 2 แสนเหรียญต่อปีและมีผู้ติดตามเป็นแสน ๆ
สินค้ายอดนิยมหนีไม่พ้นเสื้อผ้าสไตล์วินเทจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถูกใจคนที่ไม่ชอบใส่เสื้อผ้าซ้ำกับคนอื่น แต่ใครที่ชอบ fast fashion ที่นี่ก็มีขอให้มีสไตล์โดนใจ เป็นขายได้แน่นอน
จะว่าไปเทรนด์การใช้เสื้อผ้ามือสองมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ หลังเศรษฐกิจถดถอยในปี 2008 คนรุ่นใหม่มองหาสินค้าดี มีสไตล์ ราคาไม่แพง และช่วยลดความสิ้นเปลืองในการใช้ทรัพยากรส่งผลให้เกิดความเชื่อในระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน (circular economies) ที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด
เทรนด์นี้กระจายไปทั่วโลก ในอเมริกาก็เช่นกัน จากผลสำรวจของ Thredup สตาร์ตอัพที่ขายเสื้อมือสองในอเมริกา คาดว่าตลาดเสื้อมือสองจะโตขึ้น 15% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เทียบกับตลาดเสื้อผ้าทั้งหมดโต 2% จึงไม่แปลกที่ Depop จะระดมทุนมาได้แล้วกว่า 40 ล้านเหรียญ มีผู้ใช้งานกว่า 11 ล้านคน มีออฟฟิศอยู่ในลอนดอน แอลเอ นิวยอร์ก และมิลาน โดยกว่า 80% ของผู้ใช้งานมีอายุ 13-24 ปี
ยอดขายปี 2017 อยู่ที่ 400 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อนหน้า และจากเทรนด์ตลาดเสื้อผ้ามือสองกำลังมาแรง บริษัทเลยตั้งเป้าจะเพิ่มรายได้ให้ได้ 4 เท่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้
