ซัมซุงสู้ยิบตาชิงแชร์สมาร์ทโฟนย้ำฐานะเบอร์ 1 ชูกลยุทธ์ใหม่ “Excitement Marketing” โฟกัสลูกค้าเก่าพร้อมทุ่มงบฯรีเสิร์ชตลาด-AI ดีไซน์ สร้างความตื่นเต้นดึงลูกค้าใหม่ บุกยับทุกช่วงราคา
นางวรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า การทำตลาดของซัมซุงในปีนี้มาพร้อมกลยุทธ์ใหม่ “Excitement Marketing” เพื่อสร้างความตื่นเต้นและความสนใจให้ผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ล่าสุดคือกิจกรรม “Blind Booking” เปิดให้จอง “ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 10” ก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูลสินค้า ซึ่งมียอดจองกว่า 20,000 เครื่อง ทำให้เห็นว่ามีคนรักซัมซุงมากแค่ไหน และไทยจะเป็นประเทศแรกที่จำหน่ายกาแลคซี่ เอส 10
โดยกลยุทธ์ Excitement Marketing ถูกนำมาใช้กับทุกผลิตภัณฑ์และทุกระดับราคา ไม่จำกัดเฉพาะเครื่องไฮเอนด์ แต่จะมีรูปแบบใหม่ ๆ ไม่ใช่แบบเดิม พร้อมทั้งปรับโพซิชันนิ่งของกลุ่มราคาระดับกลางและล่างใหม่แต่ยังเปิดเผยไม่ได้
ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนไทยมูลค่ายังโตหลักเดียว ส่วนจำนวนเครื่องเติบโตน้อย เพราะทุกคนมีมือถือหมดแล้ว โดยเฉลี่ยเปลี่ยนเครื่อง 18 เดือน/ครั้ง โดยกลุ่มบนราคาเกิน 600 เหรียญสหรัฐยังเติบโตได้ดีอยู่
“การแข่งขันรุนแรงมาก เพราะมีคู่แข่งเยอะ ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น ทุกคนแย่งเค้กก้อนเดียว เราไม่คอมเมนต์คู่แข่ง แต่ต้องสู้ยิบตา เพราะไม่ได้แข่งแค่แฟลกชิป ดังนั้นเราต้องบอกให้ชัดว่าเขาเหมาะกับรุ่นไหน”
ทุ่มงบฯรีเสิร์ชตลาด
สิ่งที่จะโฟกัสเป็นหลักในปีนี้คือรักษาฐานลูกค้าเก่า เพราะ 70% ของลูกค้าเป็นลูกค้าเดิม จึงจะใช้งบประมาณจำนวนมากกับการทำรีเสิร์ช รวมทั้งใช้ AI (ปัญญาประดิษฐ์) เพื่อสร้างฟีเจอร์สมาร์ทโฟนที่ตรงใจผู้ใช้ รวมทั้งใช้ดีไซน์การตลาดที่เฉพาะตัวบุคคลมากขึ้น พร้อมรุกทุกช่องทางการตลาด ทั้งกิจกรรมหน้าร้าน ออนไลน์ โฆษณาทีวี เช่น ร่วมกับโอเปอเรเตอร์ในการทำโปรโมชั่น, ร่วมกับบล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ในการสื่อสารกับผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม ส่วนงบฯการตลาดเปิดเผยไม่ได้ แต่ไม่น้อยกว่าครั้งก่อน ๆ ด้านการเข้าร่วมงานโมบาย เอ็กซ์โปครั้งต่อไปอีกหรือไม่ ยังไม่ขอตอบ เพราะปีนี้ซัมซุงมีแผนจัดกิจกรรมเองเยอะมาก ดังนั้นอาจมีปัญหาด้านบุคลากรที่ไม่เพียงพอที่จะออกงาน
ยันเป็นที่ 1 ในตลาด
แม้คู่แข่งจะเคลมว่าในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาแซงหน้าซัมซุงขึ้นเบอร์ 1 แต่ข้อมูลจากอินดัสทรีสแตนดารด์ระบุว่า ซัมซุงยังเป็นเบอร์ 1 ทั้งแง่ของปริมาณและมูลค่าในทุกไตรมาส โดยมีจุดแข็งที่สินค้าและอินโนเวชั่น เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้รู้สึกอยากเปลี่ยน โดยในไตรมาส 2 ปีนี้ จะมี “Samsung Fold” ที่หน้าจอพับได้ สำหรับเจาะกลุ่ม “โมเดิร์น ลักเซอรี่” คือมีกำลังซื้อและเห็นคุณค่าของสุดยอดนวัตกรรม
นอกจากนี้แนวโน้มใช้พรีเซ็นเตอร์เด็กลง เพราะเริ่มเห็นว่าผู้ใช้งานมีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ ดังนั้นซัมซุงต้องการเป็นแบรนด์แรกที่ผู้บริโภคได้ใช้
“ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนเครื่องคือ 1.อินโนเวชั่น 2.แบรนด์ลอยัลตี้ 3.ราคาที่คุ้มค่า ดังนั้นเราจะเน้นที่การสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง มีราคาสินค้าที่เหมาะสมพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม อย่าง S10 เราก็เห็นชัดว่าลูกค้าแบรนด์คู่แข่งยังให้ความสนใจ ในส่วนทำ CRM ผู้ที่จองสินค้าในรอบ Blind Booking ก็จะได้ของพรีเมี่ยมมูลค่ารวมกว่าหมื่นบาท เพื่อให้เขารู้สึกพิเศษ เพราะความท้าทายเราตอนนี้คือรักษาฐานลูกค้า”