กสทช.เรียกคืนคลื่น 2600 MHz จาก “อสมท-กองทัพบก”เตรียมจัดประมูลใหม่

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2562 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) มีวาระสำคัญในการพิจารณาคือ  การเรียกคืนคลื่น 2600 MHz จาก บมจ.อสมท กองทัพบก และกองทัพไทย เพื่อนำมาจัดสรรใหม่

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานการวิเคราะห์การเรียกคืนคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หรือนำมาใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น สำหรับย่าน 2500-2690 MHz พร้อมทั้งเห็นชอบการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz จำนวนรวม 190 MHz จากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จำนวน 154 MHz กรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก และกรมการสื่อสารทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย อีก 12 MHz  โดยจะนำมารวมกับคลื่นส่วนที่ไม่มีการใช้งาน มาจัดสรรใหม่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล เพื่อให้เกิดประโยชน์ยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ กสทช. ได้กำหนดวันสิ้นสุดการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เป็น 45 วัน นับจากวันที่ กสทช. มีมติให้เรียกคืนคลื่นความถี่ พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขการยุติการใช้คลื่นความถี่ที่เรียกคืน โดยในระหว่างดำเนินการให้สามารถใช้คลื่นความถี่ที่เรียกคืนดังกล่าวไปพลางก่อนได้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 120 วันนับจากที่ กสทช. มีมติให้เรียกคืนคลื่นความถี่

และมีมติอนุมัติสำรองค่าใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่าย รายการเงินงบกลางของสำนักงาน กสทช. ประจำปี พ.ศ. 2562 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจ้างที่ปรึกษาเพื่อประเมินมูลค่าการเรียกคืนคลื่นความถี่ และการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้ที่ถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2500-2690 MHz การประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ในการนำมาใช้ในกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลในย่านความถี่ดังกล่าว จำนวน 3 ชุด รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 7,500,000 บาท และเมื่อมีการประมูลคลื่นความถี่ 2500-2690 MHz เสร็จสิ้นแล้ว ให้ดำเนินการหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจ้างที่ปรึกษาดังกล่าวจากเงินรายได้ที่ได้รับจากการประมูล

นอกจากนี้ ที่ประชุม กสทช. ยังได้มีมติเห็นชอบในหลักการของ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อการพัฒนาและทดสอบนวัตกรรมในพื้นที่กำกับดูแลเฉพาะ (Regulatory Sandbox)  เพื่อให้นำไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ โดยประกาศฉบับนี้จะอนุญาตให้ใช้ความถี่ในพื้นที่เฉพาะเป็นกรณีพิเศษโดยไม่ใช้กฎระเบียบปกติ เพื่อให้มีการทดสอบนวัตกรรมใหม่  อาทิ ในพื้นที่สถานศึกษาที่มีการศึกษาแบบสหวิทยาการ

“ประกาศที่มีอยู่เดิมมีข้อจำกัดมาก เมื่อประกาศฉบับนี้ออกมากรณีนำเข้านำออก เพื่อทดลองทดสอบจะได้รับการยกเว้นเพื่อเอื้อต่อการทดลองทดสอบ จะได้ไม่ต้องมาขออนุญาตมาก หน่วยงานต่างๆ รายย่อย สามารถขอใช้ความถี่เพื่อการทดลองทดสอบได้ไม่ใช่เฉพาะโอเปอเรเตอร์รายใหญ่เท่านั้น รวมถึงภาคส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องก็สามารถขอใช้คลื่นนี้ได้ เช่น เอสเอ็มอีรายย่อย หรือนักพัฒนารายย่อย อุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างอุตสาหกรรมขนส่ง การแพทย์ เอื้อเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก จ่ายแค่ค่าธรรมเนียมการขอใช้คลื่นแค่ 5,000 บาททุกราย การขอใบอนุญาต และขยายเวลาในการใช้งานคลื่นเพื่อทดลองทดสอบจากเดิมอนุญาตแค่ 270 วันเป็น 720 วัน หรือ 2 ปีโดยประมาณ”


ขณะเดียวกัน ที่ประชุม กสทช. ยังได้เห็นชอบกรอบระยะเวลาดำเนินการและกรอบวงเงินงบประมาณการดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ทดลองทดสอบ 5G ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 68,000,000 บาท เพื่อเป็นการนำร่องในการทดลองทดสอบใช้เทคโนโลยี 5G โดยจัดตั้งศูนย์ทดลองทดสอบและติดตั้งโครงข่าย 5G บนพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งหมด ซึ่งรวมถึงสยามสแควร์ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ด้วย โดยเป็นการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน กทปส. ซึ่งเรื่องนี้จะส่งให้บอร์ดกองทุน กทปส. จะพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป