นางสาวทาเทียน่า มารัชเชฟสกาย่า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับ Surface Pro ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งจากภายในสู่ภายนอก โดยปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานให้ดียิ่งขึ้น ทำให้แบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้นานถึง 13.5 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นถึง 50%
ปรับตัวเครื่องให้บางลงเพียง 8.5 มิลลิเมตร และหนักเริ่มต้น 0.76 กิโลกรัม และมีการพัฒนา kickstand ให้สามารถพับได้มากถึง 165 องศา มากกว่าเดิมที่พับได้ 150 องศา หน้าจอทัชสกรีน PixelSense ขนาด 12.3 นิ้ว ไม่มีพัดลมระบายความร้อน เพื่อให้การทำงานเงียบ แต่สามารถระบายความร้อนได้ดีที่สุด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ใช้ซีพียู Intel 7th Gen Kaby Lake มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Core m3-7Y30, Core i5-7300U
แรมมีให้เลือกตั้งแต่ 4GB / 8GB และ 16GB 1866MHz LPDDR3, หน่วยความจำ SSD มีตั้งแต่ 128GB / 256GB / 512GB และ 1TB
นอกจากนี้ยังมีโซลูชั่น Microsoft 365 ที่รวมเอา Windows 10 และ Enterprise Mobility + Security ไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยในการขับเคลื่อนองค์กรที่กำลังทรานฟอร์มไปสู่ดิจิทัล
ด้าน Surface Pen มีการปรับปรุงใหม่เช่นกัน ตอบสนองต่อการสัมผัสบนหน้าจอทัชสกรีน PixelSense ได้ดีขึ้น รองรับแรงกดที่ระดับ 4,096 มากขึ้นจากรุ่นเดิมที่รองรับแรงกด 1,024 ขณะเดียวกัน Surface Pro ใหม่ยังรองรับ Surface Dial อุปกรณ์แบบเดียวที่ใช้ร่วมกับ Surface Studio ได้อีกด้วย
โดย Surface Pro ราคาเริ่มต้นที่ 30,900 – 101,900 วางจำหน่ายแล้วที่ www.microsoft.com/th-th/store และตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ ไอทีซิตี้, บานาน่าไอที, พาวเวอร์บาย และลาซาด้า
