ดีแทคส่งรายได้ช่วงเยียวยาลูกค้าหลังสิ้นสุดสัมปทาน 603 ล้านให้”กสทช.”เป็นรายได้แผ่นดิน

ดีแทคนำส่งรายได้ช่วงเยียวยาลูกค้าหลังสิ้นสุดสัมปทาน

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)  แจ้งว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2562  บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ได้นำเงินรายได้ 603.8 ล้านบาท จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ 1800 MHz และ 850 MHz  ในช่วงระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน – 15 ธันวาคม 2561 หลังสิ้นสุดสัมปทานระหว่างบริษัทกับ บมจ. กสท โทรคมนาคม (แคท)

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า  ดีแทค ชำระเงินรายได้ในช่วงระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการหลังสิ้นสุดสัมปทาน จำนวน 603,806,875 บาท นำส่งให้ กสทช.  ตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)  ซึ่งกำหนดให้ผู้ให้บริการที่สิ้นสุดการให้บริการตามสัญญาสัมปทานมีหน้าที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อไปเป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายของผู้ใช้บริการที่ยังไม่อาจโอนย้ายไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่นได้และเป็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการให้สามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

โดยเงินดังกล่าว ดีแทคได้รายงานในรายการการคำนวณค่าธรรมเนียมใบอนุญาต  ซึ่งเป็นการชำระรายได้ขั้นต่ำจากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในช่วงระยะเวลาคุ้มครองฯ หากตรวจสอบพบว่า บริษัทยังคงมีรายได้ที่ต้องนำส่งตามประกาศฯ ดังกล่าวเพิ่มเติมอีก กสทช. จะพิจารณาเรียกเก็บเพิ่มเติมต่อไป  เพื่อให้สำนักงาน กสทช. นำส่งกระทรวงการคลัง เป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป

นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า  เงินที่นำส่ง 603,806,875 บาท  เป็นการนำส่งเงินรายได้ขั้นต่ำ  จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ 1800 MHz และ 850 MHz ในช่วงประกาศระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการ ตามที่ สำนักงาน กสทช. มีหนังสือเรียกเก็บมา เพื่อนำเงินส่งเป็นรายได้ของแผ่นดิน

ทั้งนี้ ดีแทคได้ยึดมั่นในการทำเพื่อประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลักสำคัญ พร้อมทั้งดูแลลูกค้าให้ได้บริการที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง และรักษาคุณภาพการให้บริการตามมาตรฐานและประกาศของ กสทช.