มั่นใจ “4.0” ได้ไปต่อ ออราเคิลเร่งบุกภาครัฐ

การเลือกตั้งผ่านไปเกือบเดือน แม้ยังไม่เห็นโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ แต่ “ออราเคิล” มั่นใจว่าการผลักดันให้ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนประเทศ หรือไทยแลนด์ 4.0 จะได้รับการสานต่อ

“ทวีศักดิ์ แสงทอง” กรรมการผู้จัดการ ออราเคิล ประเทศไทย เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปีนี้จะโฟกัสการเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ที่กำลังต้องปรับตัวรับกระแสดิจิทัลดิสรัปชั่น อาทิ กลุ่มสถาบันการเงิน ซึ่งมีความตื่นตัวและความพร้อมในการลงทุนในวงเงินที่สูง กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร โลจิสติกส์ และภาครัฐแม้ภาวะการเมืองจะยังไม่นิ่ง แต่หลายบริษัทมีแผนจะลงทุนไอทีตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ก็ต้องเดินหน้าต่อ เอ็นเตอร์ไพรส์ไม่มีเวลาหยุดพักการทรานส์ฟอร์ม แม้อาจจะชะลอการออกโปรดักต์ใหม่ ๆ จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ก็ยิ่งทำให้ทุกองค์กรให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างภายในองค์กรมากขึ้น”

“ตอนนี้องค์กรมุ่งสู่คลาวด์ ต้องการข้อมูลมาวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ รวมถึงใช้เอไอ แมชีนเลิร์นนิ่ง มาวางแผนธุรกิจ ซึ่งบางองค์กรยังกลัวข้อมูลรั่วไหล ออราเคิลจึงเอาคลาวด์ไปตั้งไว้ในดาต้าเซ็นเตอร์ลูกค้า และใช้บล็อกเชนมาเพิ่มความปลอดภัย”

โดยออราเคิลมีบริการ Infrastructure as a Service (IaaS) สำหรับเก็บดาต้าของบริษัท, Platform as a service (PaaS) พัฒนาเทคโนโลยีระบบเอง เช่น แมชีนเลิร์นนิ่ง, Software as a service (SaaS) พัฒนาแอปพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ครบวงจรอย่าง ERP, CRM เป็นต้น และกำลังจะเปิดให้บริการ Data as a Service (DaaS) ที่จะนำดาต้าไปใช้วิเคราะห์ได้ทันที

ปัจจุบันลูกค้าของออราเคิล 70% เป็นเอกชน อีก 30% เป็นภาครัฐ ขณะนี้กำลังรอนโยบายของรัฐบาลใหม่ว่าจะสนับสนุนการลงทุนด้านไอทีของภาครัฐแค่ไหน แต่มั่นใจว่ารัฐบาลใหม่จะเดินหน้าต่อ เพราะทุกประเทศในอาเซียนให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีมาก ขณะที่จำนวนงบประมาณที่ใช้ไม่ใช่อุปสรรคแล้ว เนื่องจากเทคโนโลยีมีราคาถูกลงมาก อาจจะมีปัญหาเฉพาะในส่วนบุคลากร ซึ่งออราเคิลพร้อมจะช่วยสนับสนุน โดยสำนักงานในไทยมีการลงทุนด้านบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีการทำงานแลกเปลี่ยนกันในระดับภูมิภาคด้วย

“หน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจเพิ่งอยู่ในระดับเริ่มต้นที่จะใช้เทคโนโลยี แต่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในส่วนของดาต้าเบสอยู่แล้ว แต่จากนี้จะใช้สินค้าแฟลกชิป “ออโตโนมัส ดาต้า แวร์เฮาส์” ซึ่งจะช่วยอุดข้อจำกัดของภาครัฐ คือมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคหรือการวิเคราะห์ข้อมูลไม่เพียงพอ ด้วยการใช้ AI แทน”

สำหรับสิ่งที่อยากให้รัฐบาลใหม่ไทยสานต่อ คือ การสร้างระบบนิเวศในหน่วยงานราชการ และโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับ อาทิ government cloud รวมถึงอยากให้ส่งเสริมให้บริษัทไอทีระดับโลกมาลงทุนตั้งสำนักงานในไทยมากขึ้น เพราะยังมีมาตรการสนับสนุน-จูงใจน้อย รวมถึงมีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อนกว่าเมื่อเทียบกับประเทศสิงคโปร์ที่ใช้แรงจูงใจด้านภาษีมาดึงดูดด้วย