ลาซาด้าอัดแคมเปญไม่อั้น “ช้อปปี้” ซุ่มปั้นโลจิสติกส์

“ลาซาด้า-ช้อปปี้” มั่นใจการเมืองไม่กระทบกำลังซื้ออีคอมเมิร์ซ ลาซาด้าย้ำยิ่งเศรษฐกิจไม่ดียอดยิ่งพุ่ง เร่งใช้โอกาสผู้บริโภคเสพสื่อเยอะปูพรมการรับรู้แบรนด์ ฟากช้อปปี้ทุ่มจัดเต็มทัพแบรนด์พรีเซ็นเตอร์ แถมเตรียมบุกโลจิสติกส์

นางธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยยังเติบโตต่อเนื่องราว 10-20% ต่อปี ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งการใช้เวลากับโมบายอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น การมีอีโคซิสเต็มที่พร้อมทั้งอีเพย์เมนต์ โลจิสติกส์ แม้ตลาดจะแข่งขันรุนแรงแต่ก็น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ เพราะยังมีโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้เล่นรายใหญ่ และ SMEsแม้ว่าตลอด 7 ปีที่เปิดให้บริการในไทยจะยังไม่เคยเจอกับสภาวะการเมืองหลังเลือกตั้ง แต่มองว่าไม่น่าจะมีผลกระทบกับอีคอมเมิร์ซ ทั้งยังมองว่าเป็นจังหวะที่ผู้บริโภคสนใจข่าวสารผ่านสื่อต่าง ๆ มากขึ้น การทำแคมเปญตลาดในช่วงนี้จะเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น

“ที่ผ่านมาเวลาเศรษฐกิจไม่ดี ตลาดออนไลน์ในไทยมักจะดี ช่วงนี้ก็เป็นจังหวะที่ดีจะทำแคมเปญตลาด โดยเฉพาะสื่อหลักเพราะคนดูทีวีมากขึ้น”

ด้านนางสาวอากาธา โซห์ หัวหน้าฝ่ายการตลาดช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของช้อปปี้ มีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 2 ดิจิตต่อปี ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้และร้านค้า

“ช้อปปี้เริ่มทำตลาดในไทยปี 2559 มียอดดาวน์โหลด 7 ล้านครั้ง ตอนนี้ยอดอยู่ที่ 30 ล้านดาวน์โหลด มีร้านค้ากว่า 6.5 แสนราย มี 1,000 ร้านแบรนด์ แม้จะเปิดเผยตัวเลขลงทุนไม่ได้ แต่ยังลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย”

ตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยยังแข่งขันรุนแรง แต่มองว่าเป็นเรื่องดี เพราะอีคอมเมิร์ซไทยยังเป็นเรื่องใหม่มากในไทย หากเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน การแข่งขันจะช่วยกระตุ้นตลาดให้เติบโตได้อีกมาก โดยคาดว่าภายในปี 2568 มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซไทยน่าจะอยู่ที่ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

“ปัจจัยการเติบโตไม่ได้มาจากแค่ผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลซ แต่ประกอบกับธุรกิจโลจิสติกส์และบริการอีเพย์เมนต์ ที่จะช่วยผลักดัน โดยช้อปปี้มีแอร์เพย์ที่เป็นบริการเพย์เมนต์ ซึ่งมีจุดแข็งที่กลุ่มแฟนเกม ส่วนโลจิสติกส์ทางบริษัทมีแผนที่จะทำ แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ แต่จะได้เห็นเร็ว ๆ นี้”

นอกจากนี้ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุด ทดลองเปิด “ช้อปปี้ไลฟ์” ช่องทางสตรีมมิ่ง ให้ Live ขายสินค้าได้ทุกวัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์และเอ็นเกจเมนต์กับร้านค้า โดยหมวดหมู่ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ แฟชั่นกับบิวตี้ ทั้งยังดึงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีชื่อดัง “แบล็กพิงก์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ในระดับภูมิภาค เนื่องจากพบว่าผู้ใช้ช้อปปี้ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและชื่นชอบศิลปินเกาหลี ส่วนพรีเซ็นเตอร์ในไทยยังคงเป็น “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และ “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์”

“ฐานลูกค้าส่วนใหญ่อายุ 15-25 ปี ขณะที่แบรนด์ที่เข้าร่วมกับช้อปปี้ส่วนใหญ่จะประสบความสำเร็จในการขายออฟไลน์ จึงอยากขยายสู่ออนไลน์ ซึ่งเราไม่ได้อยากให้แค่ขายของแล้วจบ เพราะฟีเจอร์ออกแบบมาเพื่อให้เกิดเอ็นเกจเมนต์และรีเลชั่นชิป เช่น การเล่นเกม และตอนนี้เทรนด์ Live กำลังมา อนาคตเชื่อว่าจะไม่ใช่แค่หมวดแฟชั่นที่นิยมใช้”