“แฮปปี้เฟรช” ระดมเงินลงทุนได้อีก 636 ล้านบาท ก้าวสู่ Series C เตรียมทุ่มปฏิวัติข้อมูลอัพเกรดบริการ

รายงานข่าวจาก “แฮปปี้เฟรช” ซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบออนไลน์ และผู้ให้บริการ Grocery Delivery แจ้งว่า ได้รับเงินลงทุนระดับ Series C ด้วยเงินกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 636 ล้านบาท  จาก Mirae Asset-Naver Growth Fund และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อื่นๆ อย่าง LINE Ventures, Singha Ventures และ Grab Ventures

นายกิลเลม ซาการ์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “แฮปปี้เฟรช” เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นจะใช้เงินทุนที่มาได้มาในครั้งนี้เพื่อมู่งสู่การปฏิวัติข้อมูล  ส่งเสริมเทคโนโลยี อาทิ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การรวมช่องทางสื่อสารต่างๆ รวมกันเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ ในรูปแบบของออมนิชาแนล  ซึ่งจะเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของโลกยุคดิจิทัล

นายกิลเลม ซาการ์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแฮปปี้เฟรช

โดยได้เริ่มออกแบบช่องทางต่างๆ ให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ขององค์กร ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลชำระเงินออนไลน์ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค จนไปถึงการให้บริการแบบส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้บริโภคสัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจผ่านช่องทางดิจิทัลทุกรูปแบบ ด้วยจัดเตรียมและส่งมอบบริการตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ ภายในหนึ่งชั่วโมงหรือจัดส่งทันที ซึ่งแฮปปี้เฟรซเป็นผู้บุกเบิกการใช้โปรแกรม Algorithm สำหรับเรียนรู้การยื่นข้อเสนอสุดพิเศษให้แก่ลูกค้าแต่ละคนตามประสบการณ์การใช้งานที่ผ่านมา

“เป้าหมายหลักของเรามุ่งเน้นไปที่การขยายพื้นที่ให้บริการอย่างทั่วถึงทุกภูมิภาค รวมไปถึงการลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่สำหรับนวัตกรรมล้ำสมัย จากจุดเริ่มต้นการร่วมค้าขายกับระดับฟาร์มสู่ซูเปอร์มาร์เก็ต ทวีปเอเชียนั้น การเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และเราได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขับเคลื่อนซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบออนไลน์”

โดยเชื่อมั่นว่า ในอนาคตอันใกล้ทุกคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะหันมาสั่งซื้อสินค้าต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์  ขณะที่แนวโน้มการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และจำนวนผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกันจะช่วยส่งเสริมแฮปปี้เฟรชให้เติบโตอย่างมั่นคง

“หากจะก้าวไปข้างหน้า เราต้องมีการลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล และแฮปปี้เฟรชตั้งเป้าไปยังช่องทางการตลาดใหม่ๆ ที่เป็นการตลาดแบบ Dynamic และ Macro-Trend จึงเหมาะสมกับการนำเสนอมูลค่าของบริษัทฯ สู่ท้องตลาด”

ปัจจุบันแฮปปี้เฟรช ให้บริการ Grocery Delivery ใน 3 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศไทย โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2558 มีสำนักงานใหญ่ ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยมียอดซื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทั้งอาหารสดและผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง