กู้ด่วนไร้ดอกกับ Earnin

คอลัมน์ Startup ปัญหาทำเงิน

โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ

เคยมีอาการชักหน้าไม่ถึงหลังกันไหม

ยิ่งช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองยังไม่ทันสิ้นเดือนก็มีอาการคล้ายสิ้นใจกันเป็นแถว บางคนต้องไปกู้นอกระบบยอมเสียดอกโหด ๆ ประทังชีวิตรอวันเงินเดือนออก

สตาร์ตอัพที่เราจะพูดถึงวันนี้เป็นเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยต่อชีวิตลูกจ้างจน ๆ เพราะ “ให้ยืม” เงินด่วนแบบไร้ดอก-ไร้ค่าธรรมเนียมใด ๆ พอเงินเดือนออกปุ๊บเขาจะตัดเงินที่ยืมไปจากบัญชีของเราปั๊บทำให้สะดวกสบายสุด ๆ

“Earnin” ก่อตั้งโดย “ราม พารานิอาพัน” ในปี 2012 ปัจจุบันมีลูกค้าเป็นพนักงานบริษัทห้างร้านต่าง ๆ กว่า 50,000 แห่ง โดยลูกค้าใช้บริการผ่านแอปได้ง่าย ๆ เพียงแค่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีเงินเดือนและข้อมูลส่วนตัวบางอย่างเพื่อเป็นหลักประกันว่ามีรายได้

หลังสมัครผ่านแล้วก็ขอ “ยืม” เงินได้สูงสุดวันละ 100 เหรียญ หรืออาจเพิ่มเป็นวันละ 500 เหรียญ หากเป็นลูกค้าประจำ โดยยอดรวมต้องไม่เกินรายได้ต่อเดือน

บริการของ Earnin คล้ายสินเชื่อประเภท payday loans ที่ปล่อยกู้ด่วนสำหรับคนมีเงินเดือน แต่ “ราม” เน้นว่าบริการของเขาไม่ใช่การ “ให้กู้” แต่คือการ “ให้ยืม” และที่สำคัญไม่คิดดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียม

รายได้มาจาก “ทิป” ของลูกค้าที่พอใจในบริการ ถ้าใช้แล้วชอบ ลูกค้ากดจ่าย “ทิป” ผ่านแอปได้ตามความสมัครใจ โดยบริษัทจะนำเงินนี้ไปเป็นทุนให้ลูกค้าคนอื่น “ยืม” ต่อไป

ลูกค้าส่วนใหญ่มักให้ “ทิป” เพราะอยากให้บริการนี้อยู่ต่อไปนาน ๆ ตั้งแต่เปิดมาลูกค้ากดให้ “ทิป” เกิน 10 ล้านครั้ง

จากการศึกษาของ Pew พบว่า ชาวมิลเลนเนียลที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมีปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลังกว่าคนรุ่นก่อน ไม่นับปัญหาหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่เฉลี่ยอยู่ที่ครอบครัวละ 96,000 เหรียญ

ลูกค้า Earnin จึงไม่ได้มีแค่พนักงานประจำ แต่รวมพวกพนักงานรายวัน รายกะ รายชั่วโมง แม้กระทั่งคนขับรถ Uber และฟรีแลนซ์ต่าง ๆ ถึงจะแววดีจน CB Insights ทำนายว่ามีโอกาสเป็น “ยูนิคอร์น” Earnin ก็หนีไม่พ้นข่าวฉาว มี.ค.ที่ผ่านมา

“นิวยอร์กโพสต์” แฉว่าลูกค้าที่ไม่ยอมทิปจะถูกจำกัดวงเงินแค่วันละ 100 เหรียญ คนที่จ่ายทิปจะได้วงเงินสูงกว่าจนโดนหน่วยงานเรียกไปสอบ และโดนนักวิชาการท้วงติงเรื่องรูปแบบบริการที่มองยังไงก็คือการปล่อยกู้ ทั้งเตือนไปถึงผู้บริโภคว่าการให้ข้อมูลส่วนตัว โดยเฉพาะรหัสผ่านเพื่อถอนเงินจากบัญชีธนาคารมีความเสี่ยงมากมาย แต่ Earnin ก็ยังคงดึงดูดทั้งลูกค้าและนักลงทุน ตั้งแต่ก่อตั้งมาระดมทุนได้กว่า 190 ล้านเหรียญ

แถม Earnin ติด top 10 แอปด้านการเงินของ App Store มียอดดาวน์โหลดกว่าล้านครั้ง และถึงจะไม่เปิดเผยจำนวนลูกค้าชัด ๆ แต่ “ราม” แย้มว่า ลูกค้ามียอดชั่วโมงทำงานรวมกัน 15 ล้านชั่วโมง/สัปดาห์

หากลูกค้า 1 คนทำงานเฉลี่ยอาทิตย์ละ 40 ชม. ก็พอจะเดาได้ว่า Earnin มีลูกค้า active users ถึง 375,000 คน/สัปดาห์ เลยทีเดียว