คอลัมน์ startup ปัญหาทำเงิน
โดย มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
เคยเป็นมั้ยคะ เวลาถึงโอกาสพิเศษที่ต้องอวยพรใครสักคน เรากลับคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร จะวิ่งไปซื้อการ์ดอวยพร หรือช่อดอกไม้ ก็น่าเบื่อ ครั้นจะคิดเอง เขียนเอง ก็ไม่รู้จะเสกสรรปั้นแต่งยังไง ถึงจะเก๋ โดนใจ
สตาร์ตอัพที่เราจะนำเสนอในวันนี้ มาพร้อมวิธีการอวยพรแบบใหม่ที่รับรองว่าเซอร์ไพรส์แน่นอน เพราะมันคือการเชิญคนดังขวัญใจให้มาอวยพรผ่านคลิป ยิงตรงถึงมือผู้รับกันเลย
คิดดูสิคะว่า หากมีดาราหรือไอดอลที่เราปลื้มส่งคลิปอวยพรวันเกิดให้เราแบบส่วนตั๊ว ส่วนตัว มันจะเริ่ดขนาดไหน และนั่นคือบริการของ Cameo สตาร์ตอัพน้องใหม่ไฟแรงที่เปิดตัวมาได้แค่ 2 ปี ก็จัดว่าเป็นหนึ่งใน สตาร์ตอัพที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในรอบปี และน่าจะมีมูลค่าเกิน 300 ล้านเหรียญเข้าไปแล้ว
จากคำอวยพรวันเกิด ตอนนี้บริการของ Cameo มีการนำไปใช้เพื่อโอกาสพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขอแต่งงาน การสารภาพกับพ่อแม่ว่าเป็นเกย์ ไปจนถึงการขอบคุณลูกค้าเซเลบที่ Cameo จีบเข้าสังกัดมีกว่า 15,000 คน ตั้งแต่ดารา นักธุรกิจ เน็ตไอดอล ไปจนถึงสารพัดสัตว์ดังอย่างหมาแมวเซเลบจากโลกออนไลน์ มีลิสต์ให้เลือกที่หน้าเว็บยาวเหยียด พร้อมราคา จากนั้นก็แค่บอกว่า
ต้องการให้เซเลบพูดอะไร ให้ใคร เนื่องในโอกาสอะไร ที่เหลือทางทีมจัดการให้หมด เราแค่รอรับลิงก์ไว้ดาวน์โหลดคลิปภายใน 7 วัน (หรือเร็วกว่านั้น) พอได้คลิปมาแล้ว เราจะส่งต่อหรือแชร์ต่อในโซเชียลมีเดียกี่ครั้งก็ได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าลิขสิทธิ์
สนนราคาค่าจ้างก็ลดหลั่นกันไปตามความดังของเซเลบ มีตั้งแต่ เช่น Snoop Dogg (3,000 เหรียญ) Ice T (350 เหรียญ) ชาร์ลี ชีน (550 เหรียญ) เวสลีย์ สไนปส์ (500 เหรียญ) ไปจนเน็ตไอดอล ที่ค่าตัวถูกแค่ 1 เหรียญ
“เน็ตไอดอล” ที่อยากสมัครเข้าสังกัด แต่ทีมงานก็ไม่มาทาบทามเสียที ก็สมัครผ่านแอปเองเลย ยิ่งใครมียอดฟอลโลว์เยอะ หรือมีฐานแฟนคลับมาก โอกาสจะได้รับเข้าสังกัดสูง ซึ่งทุกครั้งที่มีงานเข้ามาจะได้ส่วนแบ่งรายได้ 75% ต่อ 1 คลิป ซึ่งนอกจากจะเพิ่มรายได้แล้ว ยังกระชับความสัมพันธ์กับแฟนคลับได้อย่างดีอีกด้วย บริการของ Cameo ฮิตมาก โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z มียอดจองพุ่งปรี๊ด ๆ จาก 1 แสนครั้งเมื่อธ.ค. ปีที่แล้ว เป็น 300,000 ครั้งเมื่อมี.ค. ปีนี้
รายได้ของ Cameo มาจากการหักค่าหัวคิว 25% ทุกออร์เดอร์ ดังนั้น บริษัทเลยชอบเซเลบที่คิดค่าตัวไม่แพง มากกว่าคนดัง เพราะยิ่งถูก คนก็ยิ่งใช้เยอะ ยอดหัวคิวก็เยอะตาม แถมมียอดแชร์ในโซเชียลมีเดียเพียบ เท่ากับได้โฆษณาฟรี ๆ เข้าไปอีก กลยุทธ์นี้ ทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 5 เท่าทุกปี
ล่าสุดเพิ่งระดมทุนมาได้อีก 50 ล้านเหรียญ ทำให้ตั้งแต่เปิดกิจการมา มีเงินทุนสะสมอยู่ที่ 65 ล้านเหรียญ โดยเงินก้อนใหม่นี้ บริษัทจะนำไปปรับปรุงแอปให้ใช้งานสะดวกขึ้น พร้อมกับขยายกิจการไปต่างประเทศ
Cameo เพิ่งเปิดออฟฟิศสาขาในลอนดอน กับออสเตรเลีย และคิดว่าจะเพิ่มคนดังในสังกัดให้เป็น 5 ล้านคนได้ไม่ยาก โดยเน้นที่มาจากยุโรป ละตินอเมริกา และเอเชีย เพื่อดึงดูดลูกค้าต่างชาติต่อไป
