คิดอย่าง “underdog” GET พร้อมทุกสมรภูมิซูเปอร์แอป

GOJEK ชื่อนี้อยู่แถวหน้าของวงการสตาร์ตอัพ ทั้งในแง่การเป็นซูเปอร์แอป และมูลค่าธุรกิจกว่า 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ล่าสุดเปิดระดมทุนซีรีส์ F มียักษ์ใหญ่ทั้ง Google, JD.com, Tencent, Mitsubishi และล่าสุดจากธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมลงขันกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ขยายพื้นที่ให้บริการ ซึ่งในไทยเปิดบริการแล้วภายใต้แบรนด์ GET

“ประชาชาติธุรกิจ” เปิดมุมมอง “ภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์” ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GET น้องใหม่ของสมรภูมิเดือดที่มีทั้ง LINE และ Grab ทุ่มไม่อั้น

Q : จุดเริ่มต้น

ทีม GET ก่อนจะเจอกับ GOJEK กับ SCB ก็เป็นแค่ทีมเล็ก ๆ ที่ตั้งใจจะนำเทคโนโลยีมาทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุดกับประเทศไทย เมื่อเจอ GOJEK มาสนับสนุนเทคโนโลยีให้ ก็สานฝันให้เป็นจริง ยิ่งดีขึ้นอีกเมื่อได้เจอ SCB

ปัญหาของไทยที่อยากจะแก้คือ ไทยมี internet economy ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถ้าเทียบกับ GDP คือ แค่ 2.7% อินโดนีเซียไปไกลมาก เพราะ GOJEK ที่มีฐานผู้ใช้บริการเยอะมาก เวลานี้เป็นจุดเปลี่ยนของไทยที่ทุกส่วนจะเข้ามาสู่ออนไลน์มากขึ้น พัฒนาเร็วขึ้น

หลายคนบอกว่า เป็นเพราะค่าส่งแค่ 10 บาท ถ้าไม่มีโปรโมชั่น ก็ไม่โต แต่จากที่ทำธุรกิจนี้มาพักหนึ่งแล้ว เห็นตลาดโตทุกวัน food delivery จากต้นปีถึงวันนี้โต 5 เท่า

Q : ขยายสู่เพย์เมนต์

ทดลอง GET Pay แบบ closed loop ใช้ในกลุ่มคนขับ GET หลังจากเป็นพันธมิตรกับ SCB แล้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะเป็น open loop และปล่อยกู้ digital lending ได้ เพิ่มจากบริการ GET Win รับส่ง

ผู้โดยสาร GET Food ส่งอาหาร และ GET Delivery ส่งของ ซึ่งแค่ 4 เดือนหลังเปิดตัวเป็นทางการ ตัวเลขเกินคาดหมายมาก คนขับเพิ่มเท่าตัวเป็น 2 หมื่นคน ผู้ใช้ทะลุล้านราย แม้ว่าร้านค้าจะยังอยู่ที่ 2 หมื่นร้าน แต่ก็มียอดแอ็กทีฟ

Q : ได้ SCB เสริมแกร่ง

ช่วยเสริมใน 3 คีย์หลัก ทั้งคนขับ ร้านค้า ผู้ใช้งาน ทำให้เกิดประสบการณ์ใช้งาน สร้างรายได้ให้พาร์ตเนอร์ และผู้บริโภคมีทางเลือก มีส่วนลดต่าง ๆ มากขึ้น โดยมี GET Pay เชื่อมทุกส่วน

Q : แข่งเดือดกว่าเดิม

จะมีส่วนลดพิเศษให้ลูกค้า SCB ทำให้ตลาดคึกคักแน่ ๆ จากที่ราคาถูกอยู่แล้ว จะถูกลงไปได้อีก และยังทำให้คนขับสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของ SCB สามารถต่อยอดไปทำอื่น ๆ ได้ เพราะคนขับ GET คือคนที่หาเช้ากินค่ำ จะเป็นครั้งแรกที่กดตังค์ปุ๊บได้เงินปั๊บ จะตอบโจทย์คนขับ และจะให้สินเชื่อคนขับ อยากจะกู้เพื่อปรับปรุงรถใหม่ ทุนการศึกษาลูกก็ทำได้ มีความมั่นคงในอาชีพมากขึ้นdigital lending ก็น่าจะอีกไม่กี่เดือน แพลตฟอร์ม GET มีฐานข้อมูลที่สนับสนุนการขอสินเชื่อได้ ซึ่งรายได้ของคนขับ ถ้าฟูลไทม์ 6-7 หมื่น/เดือนก็ทำได้ และด้วยสงครามราคาของบรรดาแอป

เชื่อว่าสิ้นปีนี้ทั้งตลาดจะโตเป็นดับเบิลดิจิต อย่าง GET เป็นน้องใหม่ และยังไม่ได้ทำตลาดเยอะ แต่กระแสบอกปากต่อปากเยอะ จึงเชื่อว่า ถึงจุดที่ตลาดเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

Q : พร้อมสู้สงครามราคานานแค่ไหน

เรามียักษ์ใหญ่อย่าง GOJEK และ SCB ช่วย ก็พร้อมสู้ไปเรื่อย ๆ

Q : ไม่มีปัญหา กม.ได้เปรียบคู่แข่ง

ขึ้นอยู่กับ DNA บริษัทมากกว่า คือเห็นด้วยกับการแก้กฎหมาย ให้คนทำงานสบายใจขึ้น แต่การจะดิสรัปชั่นอะไรก็ไม่ควรทิ้งใครไว้ข้างหลัง GET จึงเชื่อว่าจะเป็นแชมเปี้ยนให้กับคนที่ถูกทิ้ง ให้พี่วินและคนอื่น ๆ ได้มีรายได้มากขึ้น

Q : แก้ กม.ปุ๊บพร้อมลุย Car Sharing

แน่นอน พร้อมสนับสนุนเต็มที่ ส่วนบริการที่ GOJEK มีมากกว่า 20 บริการ ถ้าอะไรที่มีความเป็นไปได้ก็จะนำมาเปิดบริการในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะแอปของ GOJEK น่าตื่นเต้นมาก ช่วยให้ธุรกิจออฟไลน์ก้าวสู่ออนไลน์อีโคโนมีได้จริง แต่ก็ต้องวิจัยตลาดวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคให้ชัดเจนก่อน

Q : มาช้ากว่าคนอื่นเยอะ

GET เป็น underdog ในตลาด เพราะมาเป็นคนสุดท้าย ฉะนั้นไม่สามารถจะ copy คนอื่นแล้วมาวิ่งตามเขาได้ ที่ต้องทำคือ หาสิ่งที่แตกต่าง เช่น การเลือกร้านอาหาร ล่าสุดเพิ่งเปิดฟีเจอร์ OMAKASE (โอมากาเสะ) ที่จะแนะนำร้านอาหารให้ลูกค้าแต่ละคนได้แบบเฉพาะตัว โดยวิเคราะห์จากประวัติการสั่งซื้อที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่ลงไปถึงเมนู ตรงนี้เทคโนโลยีของ GOJEK 100% หรือแม้แต่การจ่ายเงินที่มีทางเลือกที่ครบอีโคโนมีมากขึ้น Underdog เป็นแนวคิดที่ทรงพลังมาก


เพราะจะทำให้เราไม่คิดแบบ copy & paste เป้าหมายหลักไม่ใช่รายได้แต่คือการทำให้ตลาดไทยโตให้มากที่สุด