นายแจ็ค จาง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ลาซาด้า เล็งเห็นความสำคัญของ SME อันเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญยิ่งต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม โดยในปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SME ในประเทศไทยเป็นจำนวนกว่า 5,253,295 ราย เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ SMEs เพราะเชื่อว่าไม่มีแบรนด์ใดใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไปสำหรับการประสบความสำเร็จในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จึงต้องการส่งมอบความรู้และส่งต่อเครื่องมือสำคัญอย่าง “ซูเปอร์ โซลูชั่นส์” (Super-Solutions) เพื่อทำให้ผู้ประกอบการได้เติบโตอย่างยั่งยืน
ในการส่งเสริมผู้ประกอบการบนแพลตฟอร์มในช่วงสี่เดือนสุดท้ายของปี ลาซาด้าจะเน้นกลยุทธ์หลักใน 3 ด้าน 1.คอร์สเรียนออนไลน์ อาทิ สมาร์ท วิลเลจ ออนไลน์, ลาซาด้า ยูนิเวอร์ซิตี้ (Lazada University) 2.ขยายโซลูชั่นส์ด้านการตลาด และกิจกรรมในรูปแบบ O2O (Online to Offline) และ 3.พัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มขีดความสามารถของระบบโลจิสต์ติก และนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ของการชำระเงิน หรือสร้างสังคมไร้เงินสดให้มากขึ้น (cashless society) เพื่อสนับสนุนผู้ค้าจากทั่วโลก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
นอกจากนี้ ลาซาด้ายังนำเสนอ 6 กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ 1.การแยกประเภทสินค้าอย่างเหมาะสม เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน 2.การสร้างทราฟฟิกให้เพิ่มขึ้นจากเครื่องมือของแพลทฟอร์ม อาทิ การใช้คีย์เวิร์ด การแสดงผลส่วนบุคคล และความใกล้เคียงของประเภทสินค้า 3.การทำโปรโมชั่นและการวางแผนราคา อาทิ การสร้างคูปองส่วนลด หรือการกำหนดราคาในช่วงแคมเปญ
4.การใช้เครื่องมือเพื่อขยายขนาดของตะกร้าสินค้า อาทิ จัดส่งฟรีเมื่อมีการช้อปปิ้งในจำนวนชิ้นที่กำหนด หรือการใช้เครื่องมือบางประเภทใจการจัดเซ็ทสินค้า 5.การให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการช่วงแคมเปญ อาทิ การบริหารสต็อก, การบริการลูกค้า และ 6.การจัดการในหลังบ้าน การบริหารการจัดส่งสินค้าให้ทันเวลา รวมถึงการแพ็คสินค้า ระยะเวลาการจัดส่ง, การรับประกัน และให้ความช่วยเหลือลูกค้าในด้านต่างๆ
