‘หัวเว่ย’ ปักหลักมั่นในไทย ‘HarmonyOS’ ลงทุนไว้ให้อุ่นใจ

เป็นที่จับตามาพักใหญ่สำหรับ “HarmonyOS” ระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนที่ “หัวเว่ย” ทุ่มพัฒนามาเทียบชั้น “แอนดรอยด์”

ล่าสุด หัวเว่ย ประเทศไทย ได้เผยโฉม ­­­“HarmonyOS” แต่ “อิงมาร์ หวาง” ผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย ย้ำชัด ๆ ว่า สำหรับ “สมาร์ทโฟนและแท็บเลต” ของหัวเว่ย “แอนดรอยด์”จะเป็นระบบปฏิบัติการหลักเพียงหนึ่งเดียว ยังไม่มีแผนจะนำ HarmonyOS ไปใช้

แม้ว่าหัวเว่ยจะได้ลงทุนพัฒนา “HarmonyOS” หรือระบบปฏิบัติการ “หงเหมิง” (HongmengOS) ตั้งแต่ปี 2560 โดยในปีที่แล้วลงทุนไปกว่า 5,000 ล้านบาท และปีนี้จะลงอีก 35,000 ล้านบาทก็ตาม

“ผู้บริโภคมีความคุ้นชิน อีกทั้งหัวเว่ยก็ร่วมลงทุนกับ Android ไปมาก และแม้จะไม่ได้ใช้ในสมาร์ทโฟน ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการเติบโตของ HarmonyOS ดังนั้น ยืนยันว่า HarmonyOS ไม่มาเพื่อแทนที่ Android แต่มีไว้เผื่อกรณีที่ไม่สามารถใช้ Android ได้ แต่ก็ไม่ปิดกั้นหากแบรนด์อื่นสนใจจะนำ HarmonyOS ไปใช้ในสมาร์ทโฟน”

โดยหัวเว่ยต้องการให้ HarmonyOS เป็น new ecosystem เป็น generation ต่อไปของ IT ที่จะเป็นยุค intelligent era หัวเว่ยจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI รวมทั้ง IOT

“ต่อไป 1 คนจะมีอุปกรณ์ IOT 8 อย่าง แต่ปัญหาคือ ในดีไวซ์มี OS ที่แยกไม่สามารถสื่อสารกันได้ จึงต้องสร้าง OS กลางเพื่อครอบคลุมดีไวซ์ทุกตัว รวมถึงการวางระบบซีเคียวริตี้ เพราะทุกอุปกรณ์จะถูกเชื่อมต่อกันหมด หากโดนเจาะอุปกรณ์ใดแล้วจะเจาะระบบได้ทุกอุปกรณ์ ดังนั้น สิ่งที่ผู้ใช้จะได้จาก Harmony คือความปลอดภัย ไม่หน่วง และนักพัฒนาสามารถพัฒนาต่อได้ง่าย”

โดยในปีนี้ผู้บริโภคจะได้ใช้ HarmonyOS 1.0 กับสมาร์ททีวีของหัวเว่ย ปีหน้าจะเปิดตัวเวอร์ชั่น 2.0 ที่ใช้กับสมาร์ทวอตช์ และปีถัดไปจะเป็นเวอร์ชั่น 3.0 สำหรับสปีกเกอร์ เฮดเซต ก่อนจะขยับไปที่อุปกรณ์ VR

ขณะที่ตลาดไทยยังมีศักยภาพที่ดีมาก อยู่ในกลุ่มประเทศที่หัวเว่ยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก และไม่ใช่แค่สินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน

“ครึ่งปีหลังนี้จะมีสินค้าใหม่ ๆ อีกมาก ยังคงรักษาเป้าการเติบโตระดับ 2 ดิจิตในปีนี้ ยืนยันว่าหัวเว่ยจะยังลงทุนต่อเนื่องในไทยเหมือนที่ผ่านมา”