สัมภาษณ์
เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่โดนมรสุมทุกครั้งที่เปลี่ยนรัฐบาลสำหรับ “ไทยคม” ล่าสุดผลประกอบการครึ่งปีก็ยังมีรายได้ลดลง ขณะที่การจะยิงดาวเทียมดวงใหม่ก็ยังอยู่ในช่วงสุญญากาศ ทั้งสัมปทานจะสิ้นสุดในปี 2564 แต่ข้อพิพาทกับกระทรวงดิจิทัลฯ เจ้าของสัมปทานก็ทำท่าจะยืดเยื้อ มองไปข้างหน้าธุรกิจดูอึมครึม แต่ “อนันต์ แก้วร่วมวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยคม กลับมองต่างออกไป
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
Q : ธุรกิจดูมืดมนมาก
ชัดเจนขึ้นแล้ว มีมติ ครม.ชัดเจนให้ทำ PPP จัดการดาวเทียมหลังสิ้นสุดสัมปทาน และให้ กสทช. ดูแลดาวเทียมส่วนไทยคม 7-8 จะเป็นดาวเทียมในหรือนอกสัมปทาน ไม่ใช่เรื่องทะเลาะกัน เป็นปกติที่คู่สัญญากับรัฐ ต้องการคนตัดสิน
Q : ปมสัดส่วนหุ้น “อินทัช” ในไทยคม
เป็นเรื่องของอินทัช ไทยคมไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แต่สัมปทานก็เหลืออีกแค่ 2 ปีนะ
Q : จะยิงดาวเทียมใหม่
ถ้าจะขอยิงดาวเทียมใหม่ แล้วใช้วงโคจรไทย ยังต้องรอทาง กสทช. ซึ่งธุรกิจจะรอไม่ได้ ตอนนี้เราก็ไปใช้วงโคจรของต่างประเทศ จับมือกับพาร์ตเนอร์สร้างดาวเทียมดวงใหม่ พื้นที่ให้บริการคือในเอเชีย-แปซิฟิก เป็นดาวเทียมบรอดแบนด์ นี่คือแผนระยะสั้น อีก 3 ปีก็ยิงขึ้นสู่วงโคจรได้ แต่ในระยะยาว ถ้า กสทช.ชัดเจนแล้วก็ค่อยว่ากันใหม่
Q : อีก 2 ปีสัมปทานหมด
ก็พยายามสื่อสารไปยังภาครัฐว่า ถ้า PPP ช้า ก็จะมีผลนะ เพราะหมดสัญญาปุ๊บเราต้องกระโดดออกปั๊บ เราก็โอเพ่นนะ แต่จะหาคนอื่นมาบริหารต่อก็ไม่ง่าย เพราะหลังสัมปทานจะมีอายุใช้งานอีกไม่มากนัก
Q : ธุรกิจดาวเทียมเป็นขาลง
ไม่ปฏิเสธ แต่ในอีกมิติหนึ่งก็จะมีธุรกิจใหม่ ๆ เช่น เทรนด์ดาวเทียมวงโคจรต่ำที่ยิงทีเป็นร้อยดวงเพื่อให้บริการบรอดแบนด์ อย่างฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เมียนมา ก็ยังมีดีมานด์
ขณะที่ดาวเทียมพวกนี้ หากจะเข้ามาให้บริการในไทยก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย ซึ่งก็คือต้องมีีพาร์ตเนอร์ไทย ก็เป็นโอกาสของเรา
ในต่างประเทศธุรกิจดาวเทียมได้เปลี่ยนรูปไปแล้ว ไม่ใช่แค่ให้บริการทีวีหรืออินเทอร์เน็ต แต่มีหลายแอปพลิเคชั่นในการใช้ดาวเทียม ใช้เพื่อการบริหารภาครัฐ ใช้บริหารจัดการน้ำ การสำรวจต่าง ๆ มีฟังก์ชั่นอีกมาก อย่างโปรเจ็กต์ดาวเทียมสำหรับบิ๊กดาต้า ซึ่งถ้าภาครัฐอยากทำ ไทยคมก็ทำให้ได้ และก็เป็นที่ปรึกษาให้หลายประเทศแล้ว
ฉะนั้นถ้าจะบอกว่า ดาวเทียมขาลงก็คือในส่วนของคอมเมอร์เชียล แต่ถ้าในส่วนที่ใช้เพื่อบิ๊กดาต้ามันเป็นขาขึ้น ที่มีเยอะมาก ซึ่งเราก็บริหารจัดการความเสี่ยงในหลาย ๆ ด้าน
Q : เปิดบริษัทลูก Thai AI
รองรับ new S-curve อย่างตอนนี้ที่มาแรงมากคือ อากาศยานไร้คนขับ UAV พวกนี้เป็นกลุ่มที่สร้างดาวเทียมอยู่ด้วย และจำเป็นต้องมีคอนโทรลโอเปอเรชั่นด้วย ซึ่งมีโครงการภาครัฐเปิดประมูลแล้ว เช่น การทำสำรวจ การทำแผนที่ งานด้านความมั่นคง งานก่อสร้างต่าง ๆ และถึงจะมีคู่แข่งสุดท้ายก็ต้องไปสู้กันเรื่องเซอร์วิส ส่วนตลาดเอกชนก็รอกฎระเบียบออกก็ทำตลาดได้เลย
Q : จะไม่ใช่บริษัทดาวเทียมแล้ว
ยังมีธุรกิจดาวเทียมและยังเป็นรายได้หลัก แค่แยกบริษัทลูกที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เดี๋ยวจะมี Blockchain as a service มีไซเบอร์ซีเคียวริตี้ มีดิจิทัลแพลตฟอร์มเซอร์วิส หรืออย่างโดรนเพื่อการเกษตร เป็น Drone as a service
Q : แต่ละบริการมีคู่แข่งทำตลาดเยอะ
ก็คอยดูกัน เพราะไทยคมเป็นบริการแบบครบวงจรจริง ๆ ตั้งแต่โอเปอเรชั่นไปจนถึงเมนเทอแนนซ์ เบ็ดเสร็จทั่วประเทศ และอย่างโดรนเราจะทำราคาให้เกษตรกรจับต้องได้จริง ๆ ทำให้ต้นทุนต่ำกว่าที่เกษตรกรใช้วิธีเดิม ๆ ด้วยการดีไซน์อุปกรณ์และฟังก์ชั่นให้ฟิตตามต้องการ เดี๋ยวจะเปิดตัวแบรนด์เร็ว ๆ นี้
Q : จะแปลงรูปเป็นบริษัทโฮลดิ้ง
ยังไม่ถึงขั้นนั้น ตอนนี้ธุรกิจขาลงก็ต้องมีความเพียรสูง ปูพรมไปก่อน 10 new S-curve เพราะรู้ว่านวัตกรรมใหม่มันต้องมีรุ่งบ้างร่วงบ้าง ก็หว่าน ๆ ไปก่อน รายได้ new S-curve ต้องรอหลังจาก 5 ปีไปแล้ว แต่ UAV น่าจะไปได้ดี
Q : สิ่งที่ท้าทาย
การทรานส์ฟอร์มคน ถอดเครื่องหมายคำถามของแต่ละคนออกไปก่อนเพื่อไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ
Q : ปมการเมืองคนยังติดภาพอยู่
ไม่มีนะ ผมว่าไม่แล้ว และเราไม่มีปัญหากับกระทรวง กับ กสทช.
Q : แคทจะมาซื้อ
อันนี้ไม่ทราบ ใครจะมาซื้อ ใครจะขาย เป็นเรื่องของผู้ถือหุ้น เรื่องของผมเป็นเรื่องทำธุรกิจที่ต้องเดินตามยุทธศาสตร์
Q : กสทช.จะเปิดให้ใช้วงโคจรได้
วงโคจรของไทยที่มี value คือที่ไทยคมใช้อยู่ ส่วนที่เหลือถ้าเปิดให้ยื่นขอใช้ได้ ไทยคมก็คงไม่เข้า
Q : จะมีดาวเทียมไทยคม 9
ก็สุดแล้วแต่รัฐบาล ว่านามพระราชทานไทยคม สำหรับดาวเทียมสื่อสารของไทย จะให้มีการสืบต่อหรือไม่ แล้วจะอนุญาตให้ใครใช้อะไรอย่างไรต่อไป