“LINE MAN” งัดบิ๊กดาต้า ครีเอตเกมใหม่ “ฟู้ดดีลิเวอรี่”

สมรภูมิธุรกิจจัดส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นต่อสู้แข่งขันกันอย่างสนุกสนาน น้องใหม่ล่าสุด  “เก็ทฟู้ด” (GET FOOD) ก็มีโปรโมชั่นเริ่มต้นแค่สิบบาท ฝั่ง “แกร็บฟู้ด” (GrabFood) ก็อัดโปรโมชั่นต่อเนื่อง

ขาใหญ่อีกราย คือ “ไลน์แมน” (LINE MAN) ล่าสุดลุกมาสู้ค่าจัดส่งบ้าง มีราคาเหมาจ่าย 29 บาท (ส่งในรัศมี 6 กิโลเมตร) แถมลดเหลือแค่ 10 บาทในบางช่วงเวลา และยังมีแคมเปญพิเศษ อาทิ ร่วมกับอาฟเตอร์ ยู ครีเอตเมนูพิเศษ เป็น “เอแคลร์” สั่งผ่าน “ไลน์แมน” เดือนเดียวขายไปได้กว่า 2 แสนชิ้น หรือ “LOVE MOM หม่ำกับแม่” ทำยอดสั่งซื้อเพิ่มถึง 170%

“วรานันท์ ช่วงฉ่ำ” หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN กล่าวว่า โปรโมชั่นค่าจัดส่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มการใช้งานได้ แต่เพื่อให้ต่างจากคู่แข่ง และกลุ่มลูกค้าใหม่ จึงเริ่มขยับไปที่การพัฒนาบริการที่สร้างคุณค่าทางความรู้สึก (emotional value) ผ่านกลยุทธ์ moment marketingทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพบริการของพนักงานขับ รวมถึงนำผลสำรวจความพึงพอใจมาต่อยอดเป็นแคมเปญ “ไลน์แมนหล่อบอกต่อ” เพื่อให้ครองใจผู้ใช้จนใช้งานเป็นประจำ

สำหรับอาหารฮิต ได้แก่ 1.อาหารไทย 2.กลุ่มอาหารรสจัด เช่น ยำต่าง ๆ, อาหารอีสาน 3.กลุ่มฟาสต์ฟู้ด 4.เครื่องดื่ม และ 5.ขนมหวานต่าง ๆ

นอกจากนี้ ยังเน้นออกแบบแอปพลิเคชั่นให้ใช้งานง่ายกับทุกวัย โปรโมตวิธีการใช้งานเพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มผู้สูงอายุ และเพิ่มพันธมิตรร้านอาหารต่อเนื่อง จนมีีกว่า 50,000 ร้าน และเริ่มขยายไปต่างจังหวัด อาทิ พัทยา แล้ว

“อยากทำให้รู้สึกว่า LINE MAN เป็นผู้ช่วยที่เข้าใจลูกค้า ที่ผ่านมาเราเติบโตจากการเป็นแอปพลิเคชั่นที่มีจุดแข็งเรื่อง functional value ช่วยตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน ซึ่งความท้าทายจากนี้ไป คือการครองใจผู้ใช้ในระยะยาวด้วยการสร้าง emotional value”

มิ.ย.ที่ผ่านมา “LINE MAN” เพิ่งฉลองครบรอบ 3 ปี ด้วยผู้ใช้งานเดือนละ 1.5 ล้านคน ซึ่งสั่งซื้อมากกว่าเดือนละครั้ง มูลค่าออร์เดอร์สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดอยู่ที่ 300 บาท/ครั้ง ลูกค้าหลักอายุ 20 – 40 ปี

ขณะที่สภาพเศรษฐกิจไม่กระทบกับบริการไลน์แมนโดยตรง ยอดสั่งอาหารยังเพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะเย็นวันเสาร์และอาทิตย์

“ความคุ้มค่าของการให้บริการหรือค่าจัดส่งเป็นแฟกเตอร์ที่ลูกค้ามอง แต่การใช้โมเมนต์มาร์เก็ตติ้งจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ถ้าไม่ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำทำสิ่งนี้ก็จะวนอยู่แค่ในสนามแข่งราคา เป็นการใช้ข้อมูลเพื่อออกแบบโมเมนต์ สร้างประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้า รวมถึงพัฒนาตัวคนขับ เพราะไม่ได้ต้องการเป็นแค่แอปพลิเคชั่น แต่ต้องการให้มองว่าไลน์แมนเป็น คน จึงเดินหน้ายกระดับแบรนด์ในทุกมิติ ไม่ใช่แค่ผู้ช่วยที่ช่วยส่งมอบความสะดวกสบายและบริการ แต่ต้องการเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ลูกค้ารักและไว้วางใจ”