4 แกนหลัก “ดอลฟิน” ทำเรื่องการเงินให้ “ง่าย”

“เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค โฮลดิ้ง” แม้จะเป็นบริษัทร่วมทุนของ 2 ยักษ์ใหญ่ที่แข็งแรงมาก อย่าง “เซ็นทรัลกรุ๊ป” ค้าปลีกรายใหญ่ของไทย และ “JD.com” อีกหนึ่งผู้นำด้านดิจิทัลของประเทศจีน รวมถึงมีแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทไว้ที่ 250 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังยืนยันวิถีการทำงานและการเติบโตแบบ “สตาร์ตอัพ” พร้อมตั้งเป้าจะเป็น “แพลตฟอร์มอัจฉริยะ” ภายใต้ชื่อ “ดอลฟิน แพลตฟอร์ม” ที่เปิดกว้างสำหรับพันธมิตรทุกราย

“รุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล เจดี ฟินเทค ระบุว่า “ดอลฟิน แพลตฟอร์ม” จะมี 4 แกนหลักที่ขับเคลื่อน ได้แก่

1.บริการ digital lending สำหรับปล่อยสินเชื่อ

2.บริการ digital insurance ประกันออนไลน์ ซึ่งพร้อมจะจับมือกับทุกธนาคารเพื่อร่วมกันให้บริการสินเชื่อและประกันภัย

3.บริการ digital wealth management การบริหารสินทรัพย์และการลงทุน ผ่านเทคโนโลยี AI-robot advisor ที่รองรับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่มั่งคั่งอยู่แล้ว

 4. บริการ digital marketing สำหรับกลุ่มร้านค้าที่จะใช้บิ๊กดาต้ามาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตลาด

โดยมี “ดอลฟิน วอลเล็ต” บริการชำระเงินและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวเชื่อมกับ 4 แกนหลัก

“ดอลฟิน วอลเล็ต เปิดให้ได้ใช้งานได้เดือนกว่า มียอดดาวน์โหลด 1.3 แสนราย ตั้งเป้าสิ้นเดือนน่าจะเพิ่มเป็น 4 แสนราย ชูจุดเด่นให้การใช้จ่ายทุกครั้งคุ้มค่าที่สุด ตามแนวคิดของแบรนด์คือ คิดให้ ใช้ฟิน เพราะในวอลเลตสามารถผูกเข้ากับพร้อมเพย์ และบัตรเครดิตได้ด้วย ซึ่งปีนี้เตรียมงบฯการตลาดไว้หลักร้อยล้านบาท เพื่อเป็นส่วนลดดึงดูดผู้ใช้งานให้คุ้มค่าได้ 2 ต่อ คือ ได้ทั้งในส่วนของโปรโมชั่นของบัตรเครดิต และโปรโมชั่นของดอลฟิน”

ปัจจุบันมีจุดรับชำระด้วย “ดอลฟิน วอลเล็ต” แล้ว 2,000 แห่ง และยังใช้งานได้กับอีก 4 ล้านจุดรับชำระของพร้อมเพย์ รวมถึงมีเป้าหมายที่จะครอบคลุมไปถึงการใช้งานในเครือข่ายของเซ็นทรัลกรุ๊ป ในต่างประเทศด้วย โดยคาดว่าไม่เกินไตรมาส 2 ปี 2565 บริการทั้ง 4 เสาหลักจะเปิดใช้ได้ครบ โดยจะเริ่มตั้งแต่การให้สินเชื่อทางช่องทางดิจิทัล และประกันออนไลน์ ที่จะให้บริการได้ในปีหน้า ซึ่งจะทำให้ฐานลูกค้าขยับไปที่ 1 ล้านราย และเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านรายในปี 2564 และเป็น 5 ล้านรายในปี 2565

“ในช่วงแรกอาจจะเห็นเราแข็งแรงในกลุ่มเซ็นทรัล แต่เป้าหมายหลักของดอลฟิน คือ ทำให้เรื่องการเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน และมีต้นทุนที่ถูก ด้วยการใช้เทคโนโลยีมารองรับ ซึ่งมั่นใจว่าระบบ e-KYC (electronic know your customer) ของดอลฟิน ใช้งานง่ายที่สุดในตลาด และเป็นรายเดียวที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีการรู้จำตัวอักษร (optical character recognition) ที่ช่วยลดขั้นตอนในการใช้งาน แต่ยังคงความปลอดภัย”

ด้วย 4 แกนหลักบริการของ “ดอลฟิน” เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเข้าไปแข่งทั้งในสมรภูมิอีวอลเลต อีเพย์เมนต์ ฟินเทค หรือแม้แต่ “ซูเปอร์แอป” ที่ทุกรายในตลาดวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น LINE Grab Get ทรูมันนี่ ฯลฯ ล้วนประกาศจะขยับจากธุรกิจดั้งเดิม ไปสู่การปล่อยสินเชื่อออนไลน์ การให้บริการประกัน และ wealth management

“เราไม่ได้มองว่า ใครเป็นคู่แข่ง เพราะพร้อมเป็นพันธมิตรกับทุกคน และมองว่า ทุกคนมีอุดมการณ์ร่วมกัน ที่จะทำให้ตัวตนของธนบัตร เหรียญ หายไป แต่สปิริตของคุณค่ายังอยู่ เพื่อตอบโจทย์ทุกคนให้ชีวิตดีขึ้น ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายก็จะมีจุดแข็งที่ต่างกัน สำหรับดอลฟินเน้นที่ทำให้ทุกอย่างง่ายที่สุด โจทย์ของเราวันนี้ จึงเป็นดึงคนมาใช้เพื่อได้เรียนรู้และสร้างบริการที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างแท้จริงมากขึ้นไปอีก”