ท่อร้อยสายโทรคมนาคม “ทรู” พร้อมเดินหน้า

ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์

ยังคงอลหม่านกันไม่เลิก สำหรับโครงการ “ท่อร้อยสายสื่อสาร” ของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งล่าสุดได้ทำหนังสือส่งไปถึงผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมทุกรายอีกครั้ง เพื่อขอทราบปริมาณความจุของท่อร้อยสายที่แต่ละรายประสงค์ใช้งาน พร้อมย้ำว่า กรุงเทพธนาคมเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างและบริหารจัดการโครงข่ายท่อร้อยสายเอง ไม่ได้เป็นการให้สิทธิหรือผูกขาดหรือร่วมลงทุนกับผู้ใช้บริการรายใดเป็นการเฉพาะ

ขณะที่ “ศุภชัย เจียรวนนท์” ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การที่บริษัท กรุงเทพธนาคมจำกัด จะเปิดให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมทุกรายแจ้งความประสงค์ในโครงการท่อร้อยสายอีกครั้งเป็นสิ่งที่ดี เพราะก่อนหน้านี้ ทางทรูฯ ก็คิดว่าทุกรายจะยื่นเข้ามาเหมือนกัน เพียงแต่ไม่มีบริษัทใดยื่น

“ทรูก็คงเข้าร่วมเหมือนเดิม ซึ่งครั้งที่แล้วทางกรุงเทพธนาคมก็เปิดให้ผู้ประกอบการทุกรายแจ้งความประสงค์เข้าไป แต่ไม่มีใครยื่น ซึ่งเราเองก็ตกใจมากว่า ทำไมมีเรายื่นไปรายเดียว ซึ่งพอเรายื่นคนเดียวคนเลยเข้าใจผิด ทั้ง ที่จริง ๆ กรุงเทพธนาคมเชิญทุกคน ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่ต้องลงทุนสูง ก่อนนี้ที่ต้องใช้เวลาคุยกับกรุงเทพธนาคมอยู่นานก็เพราะเรื่องนี้”

ด้าน “กิตติณัฐ ทีคะวรรณ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น แม้จะไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว แต่ระบุว่า กลุ่มทรูฯ ยังเดินหน้าลงทุนโครงการต่าง ๆ ตามแผนเดิมที่วางไว้ ซึ่งไม่สามารถระบุตัวเลขที่ชัดเจนได้ว่าในปีนี้จะลงทุนอีกเท่าใด ขึ้นอยู่กับโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่ม

“เรื่องค่าคลื่นปลายปีก็ต้องว่ากันไป แต่ประเด็นสำคัญคือ ทุกอย่างที่เราลงไป ไม่ใช่ต้นทุนของทรู แต่เป็นต้นทุนของประเทศ ต้องมาช่วยกันคิดว่า เงินลงทุนที่ลงไปสร้างประโยชน์ได้อย่างไรกันแน่”

ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นแนวโน้มขาลงนั้น นายกิตติณัฐกล่าวว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ การตัดสินใจในการลงทุนใหม่ ๆ หากการลงทุนนั้นเป็นการลงทุนที่ช่วยดิสรัปต์ หรือช่วยแก้ปัญหาให้ธุรกิจได้ ก็ไม่น่าจะกระทบกับการตัดสินใจลงทุนของภาคเอกชน

“ยิ่งถ้าสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ถ้าต้นทุนสูง สกิลแข่งขันไม่ได้ ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง ไม่พร้อมกับการแข่งขัน บางอย่างการลงทุนก็จะช่วยเข้าไปแก้ไขการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจได้”