แล้วไงใครแคร์! “หัวเว่ย” ลุย 5Gแบบไม่ง้อชิ้นส่วนจากสหรัฐแถมปักธงเป็นผู้นำวิจัย 6G

แม้จะโดนกดดันจากสหรัฐอเมริกาอย่างหนักหน่วง จนกระทั่งทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว Huawei Mate 30 series ไม่มีบริการและแอปพลิเคชั่นของ Google มาพร้อมในเครื่อง

แต่ “หัวเว่ย” ก็ยังลุยไม่ถอย ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าพัฒนาอุปกรณ์สำหรับเทคโนโลยี 5G และเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประกาศพร้อมช่วย “ยุโรป” พัฒนาระบบปฏิบัติ (OS) ของตัวเอง เป็นความเอกเทศด้านดิจิทัล  ซึ่ง “อีริค สวี” ประธานกรรมการบริษัทหมุนเวียนตามวาระ ของหัวเว่ย ได้ให้สัมภาษณ์กับ “Handelsblatt” หนังสือพิมพ์ธุรกิจของเยอรมนี  โดยระบุว่า “หัวเว่ย” พูดคุยถึงแผนนี้กับบริษัทบางแห่งในยุโรปแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกชื่อได้ ทั้งยังย้ำว่า การกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐ ไม่ให้บริษัทคู่ค้าของหัวเว่ยในสหรัฐอเมริกา ทำธุรกิจด้วย เป็นสิ่งไม่ยุติธรรม แต่ “หัวเว่ยก็รับมือกับมันได้”

ล่าสุด ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย “เหริน เจิ้งเฟย” ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNBC และ รอยเตอร์ โดยระบุว่า  “หัวเว่ย” ยินดีที่จะอนุญาตให้บริษัทในสหรัฐอเมริกาใช้เทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ยเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน โดยระบุว่า ไม่กลัวที่จะให้เทคโนโลยีของหัวเว่ยแก่คู่แข่ง

“แต่เงินที่จะได้จากการขายเทคโนโลยีจะช่วยให้เราก้าวไปข้างหน้าได้ไกลขึ้น”

ทั้งยังระบุว่า ในเดือน ต.ค. นี้ หัวเว่ยจะเริ่มสร้างสถานีฐาน 5G โดยไม่ใช้ชิ้นส่วนจากพาร์ทเนอร์สัญชาติอเมริกัน และจะมีกำลังการผลิตราว 5,000 สถานีฐานต่อเดือน ทั้งปีจะอยู่ที่ 6 แสนสถานีฐาน ก่อนที่จะเพิ่มเป็นกว่า 2 เท่าในปีหน้า หรือราว 1.5 ล้านสถานีฐาน

แถม “เหริน เจิ้งเฟย” เปิดเผยถึงการพัฒนาเทคโนโลยี 6G ของหัวเว่ยที่ได้เริ่มขึ้นแล้ว และมั่นใจ “หัวเว่ย” จะยังคงเป็นผู้นำในการวิจัย 6G  เพียงแต่การใช้งาน 6G ในเชิงพาณิชย์จะต้องใช้เวลาพัฒนาอีกอย่างน้อย 10 ปี