เร่งเกมรักษาแชมป์ OPPO ขยับสู้ศึกไฮเอนด์

ประกาศตัวเป็นเบอร์หนึ่งครองแชมป์ตลาดสมาร์ทโฟนไทยตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว ด้วยมาร์เก็ตแชร์กว่า 23% แต่ “OPPO” ยังไม่พอใจ ล่าสุดตั้งเป้ารักษาแชมป์ให้ได้แบบ “ถาวร”

“ชานนท์ จิรายุกุล” รองประธานกรรมการฝ่ายบริหาร บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อให้ OPPO ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดสมาร์ทโฟน “ถาวร” จึงปิดจุดอ่อนด้วยการลุยตลาดไฮเอนด์เต็มตัว โดยจะเปิดตัวรุ่นเรือธงราคา 30,000 บาทสู่ตลาด

“เราไม่ได้ทำตลาดรุ่น Fine มา 4-5 ปี จนปลายปีที่แล้วมี Fine X เพื่อทดสอบตลาดก่อนมาทำ Reno Pro ที่ราคาแตะ 20,000 บาทจากที่ไม่เคย จากนี้จะเริ่มทำรุ่น Fine ที่เป็นแฟลกชิปและจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม”

สิ่งที่ OPPO ต้องทำให้ได้ คือ “รูปลักษณ์” สินค้าไฮเอนด์ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของแบรนด์ ในช่วงแรกจะพยายามลดช่องว่างระหว่างผู้นำตลาดไฮเอนด์ และตั้งเป้าใช้เวลา 3 ปีขึ้นเป็นผู้นำ โดยจะเปิดตัวสินค้าไฮเอนด์ปีละ 2 รุ่น

“6 เดือนที่ผ่านมา OPPO ไม่ได้ออกสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาด เพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยจะยกเลิก “F Series” ที่เป็นตระกูลขายดีที่สุดของออปโป้ นำมารวมกับ “Reno Series” เป็น “Reno2 F” และ “Reno2″ ที่จะทำตลาดในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งยังคงจุดแข็งที่กล้องถ่ายภาพ แต่มีดีไซน์ที่สวยยิ่งขึ้น”

จากนี้ OPPO จึงทำตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ 4 ซีรีส์ ครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่นถึงวัยทำงาน ได้แก่ 1. A Series สำหรับเจาะตลาดล่าง ราคา 4,000-9,000 บาท เน้นสเป็กที่แรง 2.K Series ขายเฉพาะออนไลน์ ราคา 9,000-10,000 บาท 3.Reno Series ราคา 10,000-20,000 บาท จุดเด่นกล้องถ่ายภาพ และ 4.Fine Series รุ่นแฟลกชิป ราคา 30,000 บาทขึ้นไป

“ทุกแบรนด์มุ่งเซ็กเมนต์กลาง ทำให้การแข่งขันค่อนข้างรุนแรง แต่ OPPO ก็เป็นเบอร์ 1 และแข็งแกร่งมากในกลุ่มนี้ มีมาร์เก็ตแชร์ราว 60% เมื่อปรับให้ F Series มารวมกับ Reno Series จะแข็งแรงยิ่งขึ้นอีก ซึ่งเรากล้าเปลี่ยนเพื่อเสริมเขี้ยวเล็บด้านดีไซน์ที่พรีเมี่ยมขึ้น ผู้บริโภคจดจำง่ายเพราะรุ่นไม่เยอะเกินไป ซึ่งการเปลี่ยนทั้งกระดานส่วนใหญ่ผลตอบรับจะเติบโตเป็นเท่าตัวตลอด ดังนั้น รุ่นนี้จะต้องปังเหมือนกับ Reno รุ่นก่อนที่สามารถทำยอดขายได้มากกว่ารุ่น R17 Pro ถึง 2 เท่า โดยปีนี้งบฯการตลาดจะยังทุ่มกับ Reno Series”

นอกจากนี้ ช่วงสิ้นปีจะเปิดตัว “OPPO Super Flagship Store” ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ทั้งจะเปิดตัวอีกหลายผลิตภัณฑ์ ซึ่งรวมไปถึง “แก็ดเจต” ที่ได้รุกตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับ IOT อาทิ หูฟัง สมาร์ทวอตช์ และในเร็ว ๆ นี้จะมีสมาร์ทโฟน 5G ซึ่ง OPPO เริ่มขายดีไวซ์ที่รองรับ 5G แล้วในยุโรปตั้งแต่ พ.ค.ที่ผ่านมา