โหม “อีสปอร์ต” พยุงตลาด สมรภูมิเดือดแบรนด์ไอที

ยุคนี้ตลาดไอทีไม่คึกคักเหมือนเก่า แถมยังโดนพิษเศรษฐกิจฉุดกำลังซื้อ บรรดาแบรนด์ไอทีจึงต่างพลิกกลยุทธ์ปั๊มยอดขายกันดุเดือด โดยเฉพาะการเกาะกระแส “อีสปอร์ต” ที่นับวันจะฮอตฮิตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สินค้ากลุ่มเกมมิ่งกลายเป็นตัวชูโรงสำคัญของตลาดไอที

“เกมมิ่ง” พยุงตลาด

“นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด คาดการณ์ว่า ภาพรวมตลาดไอทีปีนี้คาดว่าในแง่จำนวนจะติดลบ 5% แต่มูลค่ายังเติบโตได้จากสินค้ากลุ่มเกมมิ่งที่เติบโตถึง 30% ส่งผลให้สินค้าเกมมิ่งมีสัดส่วนตลาดถึง 25%

ตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับภาพรวมของยอดเอเซอร์ แต่การแข่งขันที่รุนแรงจะทำให้การเติบโตของเอเซอร์ไม่สูงมากนัก โดยเอเซอร์ยังเป็นที่ 1 มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% โดยช่วงปลายปีจะมีแคมเปญตลาดเพิ่มและเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 10 รุ่น

“ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้ซื้อเพื่อใช้งานเป็นเครื่องแรกแล้ว แต่จะมองหาเครื่องใหม่ที่สเป็กดีขึ้น โดยกลุ่มสินค้าที่ผลักดันให้มูลค่าตลาดสูงขึ้น คือ กลุ่มเบาบางและเกม ราคาของเกมมิ่งและบางเบาค่อนข้างสูง ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยต่อเครื่องสูงขึ้นประมาณ 1,000 บาท ปัจจุบันเฉลี่ย 20,000 บาท/เครื่อง”

ส่วนตลาดไอทีในปี 2563 น่าจะใกล้เคียงกับปีนี้ การแข่งขันยังรุนแรงต่อเนื่อง และทุกแบรนด์ยังคงใช้อีสปอร์ตในการทำตลาด เพราะเป็นเซ็กเมนต์เกม เป็นกลุ่มที่เติบโตได้ดีไปอีกนาน

“อีสปอร์ต” กรุยทาง Gen Y

ขณะที่ “เอเซอร์” ทำการตลาดโดยใช้ “อีสปอร์ต” มา 3 ปีแล้ว ทั้งการจัดแข่งขัน “Thailand Predator League”, ร่วมกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีสปอร์ต เปิด “Predator Arena” สนามแข่งขันและอะคาเดมีอีสปอร์ต การเป็นสปอนเซอร์ให้กับนักกีฬา ล่าสุดจัดการแข่งขันซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ คือ เอเซอร์เป็นเบอร์ 1 ของแบรนด์ที่ Gen Y หรือช่วงอายุ 23 ปีเลือกซื้อ จากเดิมที่ภาพของเอเซอร์จะเป็นแบรนด์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่

เป้าหมายต่อไป คือ การเจาะผู้บริโภค Gen Z โดยเอเซอร์ก็ต้องหาอะไรใหม่ ๆ มาทำตลาด แต่ปัจจุบันอีสปอร์ตถือเป็นการตลาดที่จับต้องได้มากที่สุด

“เรามั่นใจว่าเรามาถูกทางแล้ว หลังจากที่ทำมา 3 ปี ถ้าไม่นับเรื่องยอดขาย ผลลัพธ์ที่เราเห็น คือ ภาพของเกมที่กลายเป็นกีฬาชัดเจนขึ้น ถูกมองในแง่บวกมากขึ้น อีโคซิสเต็มก็เริ่มสมบูรณ์ขึ้น เราเริ่มเห็นคนดังอย่างนักฟุตบอล นักมวยก็หันมาทำทีมอีสปอร์ตของตัวเอง”

ล่าสุดเอเซอร์จัดการแข่งขัน “Thailand Predator League 2020” เพื่อหา 2 ทีมตัวแทนประเทศไทยไปแข่งเกม PUBG ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ระดับภูมิภาค ณ ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเปิดรับสมัครทีมเข้าแข่งขันแบบออนไลน์ 10-25 ต.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม “เอเซอร์” ยังไม่มีแผนที่จะทำทีมอีสปอร์ตเอง เพราะไม่มีความชำนวญในการบริหารจัดการทีม แต่มีโปรเจ็กต์ “Planet 9” แพลตฟอร์มที่เปิดให้มืออาชีพเจอมือสมัครเล่นเพื่อช่วยฝึกสอนให้เป็นนักกีฬา ดังนั้น เอเซอร์จะเน้นสนับสนุนมากกว่าปั้นนักกีฬาเอง

“ตอนนี้เราเปิดกว้างมาก ใครอยากจะให้เราเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนอุปกรณ์ก็มาได้ แต่ต้องพร้อมจริง ๆ เหมือนกับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีการใช้งานเครื่องต่อเนื่อง เพราะเราไม่อยากให้เอาเครื่องไปทิ้ง ตั้งไว้เฉย ๆ 3 เดือนแข่งที ซึ่งตอนนี้อีสปอร์ตไทยกำลังเดินมาถูกทาง เริ่มเห็นผลผลิต”

เกมมิ่งครองแชร์ 20%

“จักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด เปิดเผยว่า เริ่มใช้ “อีสปอร์ต” เป็นกลยุทธ์การตลาดตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัด “Esports Thailand Championship presented by Advice”

ในระดับภูมิภาคสำหรับบุคคลทั่วไป เพื่อให้ความรู้ในอุตสาหกรรมอีสปอร์ต และในปีนี้ยังเดินหน้าต่อเนื่องด้วยการจัดกิจกรรม “Advice E-Sports 2019 Episode 2” ใน 18 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เน้นสร้างการรับรู้ในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจในกีฬาอีสปอร์ตอยู่แล้ว จึงมีศักยภาพที่จะผันตัวเป็นลูกค้าของแอดไวซ์ในอนาคต

“ตลาดไอทีปีนี้ค่อนข้างซบเซา ในแง่จำนวนน่าจะติดลบ แต่มูลค่ายังได้สินค้ากลุ่มเกมมิ่งมาช่วยพยุงและกินมาร์เก็ตแชร์ได้ถึง 20% ของตลาดรวม โดยโน้ตบุ๊กเกมมิ่งเติบโตมากที่สุด เดี๋ยวนี้คนซื้อโน้ตบุ๊กเครื่องแรกก็เลือกเป็นเกมมิ่ง ในส่วนของแอดไวซ์เองสินค้าเกมมิ่งก็โตเป็นเท่าตัว คิดเป็น 20% ของยอดขายแล้ว”

แม้ว่าแผนการตลาดในปี 2563 จะยังไม่เคาะสรุปชัดเจน แต่ยังโฟกัสที่ “อีสปอร์ต” ต่อไปแน่นอน และจะเน้นทางด้านออนไลน์เป็นหลัก โดยมีแผนจะทำแชนเนลในยูทูบและเฟซบุ๊ก เพื่อให้ความรู้ด้านไอทีควบคู่ไปกับการทำโปรโมชั่นต่าง ๆ ของหน้าร้าน

“แบรนด์แอดไวซ์ก่อตั้งมานาน ดังนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่อายุ 30 ขึ้น อีกทั้งยังแข็งแรงในต่างจังหวัดมากกว่า เพราะสาขากว่า 350 สาขา มีเพียง 11 สาขาในกรุงเทพฯ ดังนั้น การใช้อีสปอร์ตในการทำการตลาดจะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างฐานลูกค้าใหม่ ๆ อายุ 15-30 ปี”

อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมอีสปอร์ตของไทยจะเติบโตทุกปี มีการจัดกิจกรรมแข่งขันมากขึ้น แต่ยังเป็นแบบ “ตัวใครตัวมัน” ไม่ได้จัดเป็น league ทางการเหมือนกีฬาอื่น ๆ ซึ่งหากมี ก็จะทำให้เกิดการยกระดับอุตสาหกรรมอีสปอร์ตไทย และดึงดูดสปอนเซอร์จากต่างประเทศได้ด้วย ไม่ใช่แค่สร้างนักกีฬาsเพื่อส่งไปแข่งขันใน league ต่างประเทศอย่างเดียว