ปูพรมทั่วประเทศ ย้ำจุดแข็ง LINE TV สู่ปีที่ 6

ก้าวสู่ปีที่ 6 แล้วสำหรับบริการ LINE TV ที่มีฐานผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่น LINE กว่า 40 ล้านรายเป็นจุดแข็ง มาวันนี้พร้อมประกาศแผนการก้าวสู่ “เบอร์ 1 ทีวีออนไลน์” ด้วยการปูพรมสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น หลังจากแข็งแรงแล้วในกรุงเทพฯ

“กณพ ศุภมานพ” รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า 40% ของผู้ใช้ LINE ใช้บริการ LINE TV ทุกวัน เฉลี่ย 176 นาที/คน/วัน ขณะที่มีกว่า 1 แสนคลิปอยู่ในระบบจาก 220 พาร์ตเนอร์ โดยละครท็อปฟอร์มสูงมียอดเฉลี่ยถึง 250 ล้านวิว และปัจจุบันมียอดวิวรวมถึง 8,000 ล้านวิว

“เมืองต่างจังหวัดเติบโตเรื่อย ๆ ดังนั้น ไลฟ์สไตล์คนเมืองเริ่มชัดเจน สิ่งที่เราต้องทำคือ กระจายการเข้าถึงไปสู่ทั่วประเทศมากขึ้น แต่เมืองเล็กมีข้อจำกัดการใช้งานดาต้า ฉะนั้น เราต้องสร้างการรับรู้ว่ารูปแบบการใช้รับชมปรับได้ตามจำนวนดาต้าที่มี”

แม้การใช้งาน LINE TV จะเป็น “โมบายเฟิรสต์” แต่ก็เริ่มเห็นเทรนด์การดูผ่านโครมแคสต์สู่ “บิ๊กสกรีน” โดย 4 เดือนที่ผ่านมาโตเฉลี่ย 70%

กลยุทธ์จากนี้จะเน้นที่ออริจินัลคอนเทนต์ที่เป็นแมสและกลุ่มครอบครัวมากขึ้น และเพิ่มคอนเทนต์กีฬา เจาะตลาดผู้ชาย และเปิดแอปบนแอนดรอยด์ทีวี รวมถึงทำตลาดร่วมกับแบรนด์ทีวี

ทั้งใช้ประโยชน์จากอีโคซิสเต็มของ LINE อาทิ ออฟฟิเชียลแอ็กเคานต์ ไลน์ทูเดย์ และเพิ่มแท็บใหม่สำหรับคอนเทนต์ 100 ล้านวิว (คิลเลอร์คอนเทนต์)

“คนส่วนใหญ่ดูทั้งทีวีและออนไลน์ ดังนั้น จะไปแมสต้องมีคอนเทนต์ที่ชอบ ต้องสร้างการรับรู้ และส่งเสริมให้ไลน์ทีวีเข้าใกล้เขามากที่สุด”

ขณะที่การแข่งขันยิ่งทำให้คนคุ้นชิน และช่วยเปลี่ยนพฤติกรรม

ด้านรายได้จากโฆษณาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 50% ต่อปี และแม้เม็ดเงินโฆษณาบนออนไลน์ยังน้อยกว่าช่องทางทีวี แต่ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะการดูย้อนหลังเป็นนิวนอร์มอลแล้ว ดังนั้น ไม่แปลกที่จะลงโฆษณาออนไลน์

อย่างไรก็ตาม LINE TV ไม่ได้แข่งกับทีวี บางคอนเทนต์เรตติ้งบนทีวีไม่ดี แต่ในออนไลน์ดี เกิดกระแสบนโลกออนไลน์จากคนดูย้อนหลัง คนดูปกติถึงไปดูบนทีวี จึงเป็นการสนับสนุนกัน และเมื่อนำคอนเทนต์ลงออนไลน์ ผู้ผลิตก็ได้เงินโฆษณา ได้ผู้ชมหน้าใหม่

ดังนั้น ทีวีออนไลน์ช่วยให้อุตสาหกรรมบันเทิงแข็งแรงขึ้น เพราะคนดูไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่เปลี่ยนพฤติกรรม