ย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน “หัวเว่ย” ได้เริ่มเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ในฐานะ vender อุปกรณ์โทรคมนาคมดาวรุ่งจากประเทศจีน ซึ่งแจ้งเกิดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยด้วยการเนรมิตระบบสำหรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบพรีเพด (เติมเงิน) ให้กับค่ายมือถือเบอร์ 1 ในเมืองไทย อย่าง “เอไอเอส” ได้แบบรวดเร็วทันใจ ในขณะที่ vender เจ้าอื่นลังเลที่จะรับงานนี้
เรียกว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงที่ปักหมุดชื่อของ “หัวเว่ย” และพลิกโฉมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
มาวันนี้ “หัวเว่ย” ไม่ได้เป็นแค่ผู้อยู่เบื้องหลังโครงข่ายและบริการโทรคมนาคม แต่ครอบคลุมไปถึงเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ รวมถึงยังใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้นด้วยสมาร์ทดีไวซ์สำหรับผู้บริโภค ตั้งแต่สมาร์ทโฟน ไปจนถึงอุปกรณ์ IOT (อินเทอร์เน็ตออฟทิงส์) ต่าง ๆ
ในโอกาสครบรอบ 20 ปีที่ทำธุรกิจในไทย “อาเบล เติ้ง” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “จะยังมุ่งมั่นต่อยอดต่อไป เราจะอยู่ในประเทศไทย ทำเพื่อคนไทย ลงทุนเพื่อประเทศไทยมากขึ้น และขอบคุณผู้บริโภคชาวไทยที่เชื่อมั่นในหัวเว่ย”
นับตั้งแต่การก่อตั้งสำนักงานในประเทศไทย เมื่อปี 2542 หัวเว่ยมีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาโครงสร้าง
พื้นฐานด้านไอซีทีให้แก่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โครงข่าย 2G, 3G และ 4G ซึ่งถือเป็นความภูมิใจ และจะร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อส่งมอบเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่คนไทยทุกคน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร ให้ทุกคนเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างไร้รอยต่อในโลกแห่งนวัตกรรม
ปัจจุบันหัวเว่ยได้จ้างงานในไทย 3,200 ตำแหน่ง และ 75% เป็นคนไทย ทั้งยังมีมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างในประเทศไทย 196 ล้านเหรียญสหรัฐ
แม้ที่ผ่านมาจะต้องเผชิญความท้าทายต่าง ๆ แต่ก็ยังคงยึดมั่นในการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต จะต้องทำประโยชน์ให้กับลูกค้าเพื่อให้ให้รับสิ่งที่ดีที่สุด โดยเฉพาะความท้าทายในการพัฒนาตนเอง เพื่อให้มีแรงสร้างสิ่งที่ดีที่สุด
ขณะที่ 5G ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญของหัวเว่ยในยุคนี้ บริษัทก็ได้ลงทุนร่วมกับพันธมิตรและภาครัฐ ทดลองทดสอบ “5G testbed” ในไทยด้วย พร้อมกับการเปิดศูนย์ OpenLab และหัวเว่ย อะเคเดมี เพื่อร่วมพัฒนาทักษะของคนไทยให้พร้อมก้าวสู่ 4.0
“5G คลาวด์ และ AI จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งหัวเว่ยก็พร้อมร่วมมือสร้างอีโคซิสเต็มของภาคอุตสาหกรรม คู่กับการเคารพอธิปไตยด้านดิจิทัลของประเทศไทย”
ในส่วนของ “สงครามการค้า” ระหว่างจีนกับสหรัฐ ที่ “หัวเว่ย” ตกเป็นเป้าโจมตีนั้น ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย ประเทศไทย ระบุว่า “แม้จะมีแรงกดดันอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าอนาคตจะสดใส”
พร้อมย้ำว่า ยอดขายในช่วงที่ผ่านมาเติบโตถึง 124% ทั้งแผนการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง “Huawei mate 30Pro” ก็ยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม
ส่วนผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ จะยังสามารถใช้งานบริการของ Google ได้หรือไม่นั้น ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
