ผู้บริหารในยุคดิจิทัล ต้องกล้าลอง กล้ารู้ กล้าทำ

คอลัมน์ Pawoot.com
โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

ผมเป็นคนที่ใช้บริการ Grab อยู่บ่อย ๆ และเคยอยากลองขับแท็กซี่มานานแล้ว เลยลองสมัครขับ Grab ดู เพราะเป็นคนที่อยากรู้อะไรแล้วจะลงมือทำเลย ผมใช้วิธีสมัครผ่านแอปพลิเคชั่น Grab Driver ซึ่งเดี๋ยวนี้ต้องอบรมก่อน แต่มี e-Learning พร้อมให้ทำข้อสอบ ออนไลน์ได้ ถ้าผ่านทั้งหมดจึงขับได้

เมื่อได้ทดลองขับจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจ คือ แอปพลิเคชั่น Grab Driver มี big data ที่ช่วยวิเคราะห์ว่า เราควรขับไปในพื้นที่ไหนบ้าง มี sheet map ที่แสดงให้เห็นว่าตรงไหนที่เป็นสีแดง ตรงนั้นมีคนต้องการเรียกใช้รถเยอะ

ประสบการณ์ที่ตลกมาก คือ ผมมีโอกาสรับผู้โดยสารที่เป็นคนจีน ทำงานให้ “หัวเว่ย” ตอนแรกที่ชวนคุย เขาบอกว่าทำงานด้านเทเลคอมมิวนิเคชั่น ผมถามกลับไปว่า “หัวเว่ย” ใช่ไหม เขาแปลกใจว่า รู้ได้อย่างไร (จริง ๆ มันมีอยู่ไม่กี่บริษัทหรอก) ผมคุยเรื่องเทคโนโลยี 5G ฯลฯ เขาก็คงงงอยู่เหมือนกัน ผมว่ามันเป็นอะไรที่ทำให้เห็นโลกใหม่ ๆ

ฉะนั้น ผู้บริหารที่อยากจะได้อะไรใหม่ ๆ ลองไปขับ Grab ดูก็ได้นะครับ

จริง ๆ ตอนนี้ ผมกำลังวางแผนทำธุรกิจเกี่ยวกับการระดมคนขับรถยนต์ต่าง ๆ มารวมกัน การจะวางแผนธุรกิจแบบนี้ได้ต้องมีความเข้าใจ ผมจึงต้องลงไปทำเอง ไปเป็นคนขับเอง จะได้รู้ว่าเขามีวิธีการแบบใด

เมื่อเข้าใจก็จะออกแบบธุรกิจได้แม่นมากขึ้น มากกว่านั่ง Forcast และเมื่อคุณรู้จริงแล้ว คุณถึงจะมองเห็นวิธีการใหม่ ๆ ที่จะนำมาปะติดปะต่อ ก่อให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นมาได้อีกมากมาย

ท่านผู้บริหารทั้งหลาย ก่อนอื่นหากยังไม่เคยใช้บริการ Grab มาก่อน ลองมานั่งรถดู (ไม่ได้โฆษณานะครับ ตอนนี้เหลือแค่เจ้าเดียวแล้ว) จะได้เข้าใจว่า ที่พูดถึงนั้นเป็นอย่างไร หรือหากเคยนั่งแล้วก็อาจจะลองไปขับดูเลยก็ได้

ผมเองเข้าใจวิธีการแล้ว รู้แล้วว่าวิธีการรับ-จ่ายเงินแก่ผู้ขับเป็นอย่างไร วิธีโน้มน้าวคนขับ ซึ่ง Grab ออกแบบได้น่าสนใจมาก ๆ นี่คือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการขับ Grab แค่ 2 วันเท่านั้น

การเข้าใจเรื่องดิจิทัลไม่สามารถแค่นั่งฟังได้ แต่ต้องเอาตัวเองลงไปคลุกอยู่กับดิจิทัลด้วย ฉะนั้น การที่เราจะรู้อะไรจริง ๆ ต้องอย่ากลัวครับ ต้องใช้เลย ต้องทำเลย ไม่รู้ก็ถามเลยครับ ลองใช้ e-Money ฯลฯ เมื่อคุณเข้าใจ เมื่อได้เติมอะไรใหม่ ๆ เรื่องดิจิทัล บวกกับประสบการณ์ที่มีอยู่ คุณจะกลายเป็นสุดยอดนักบริหารในทันที ต่อยอดเป็นสุดยอดนักวางแผนธุรกิจ

มีคำหนึ่งที่มีคนพูดกันมากในปัจจุบัน คือ connecting the dot มันคือการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ สิ่งนี้เองที่ทำให้เกิดความคิด เกิดไอเดียขึ้นในหัวของคุณมากมาย เพราะเกิดการเชื่อมโยงกัน

อย่าเพิ่งคิดว่าการที่คุณทำอะไรไปในวันหนึ่ง ๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร อาจเกิดประโยชน์ขึ้นในอนาคตได้ มันคือจุด ๆ หนึ่งที่คุณได้ทำไว้ ฉะนั้น เมื่อคุณลากจุดแต่ละจุดเชื่อมโยงกัน มันอาจกลายเป็นภาพภาพหนึ่งที่มีมูลค่า มี value ให้คุณหรือธุรกิจ หรือเป็นประโยชน์ให้สังคมก็ได้