5G สมรภูมิชิง “พันธมิตร” “ทรู” ลุยปักธงผู้นำ AIS สู้ไม่ถอย

กลายเป็นสมรภูมิช่วงชิง “ความเป็นผู้นำ” สำหรับการเป็นเบอร์ 1 ในการให้บริการด้วยเทคโนโลยี 5G แม้ทุกโอเปอเรเตอร์จะร่วมทดลองทดสอบ แต่ล่าสุดเกิดศึก “ชิงซีน” อีกครั้งกับการเปิดพื้นที่โชว์สุดยอดนวัตกรรม 5G โดย “ทรู” ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 60 ล้านบาท แปลงโฉม “ลิโด้ คอนเน็คท์” ให้เป็นพื้นที่จัดงาน “True 5G World” ขึ้น ระหว่าง 19-22 ธันวาคม 2562 ซึ่งมีไฮไลต์สำคัญ คือ การแปลงโฉมโรงภาพยนตร์ลิโด้ 2 ให้เป็น “DJ Hologram Concert” จาก DJ ชื่อดัง เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

เรียกว่านอกจากจะเจาะใจกลาง “สยาม” ย่านวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ เหมือนเช่นทุกครั้งที่จะเริ่มปูพรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ แล้ว ยังเฟ้นหากิจกรรมให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย พร้อมย้ำความเป็น “เบอร์ 1”

“สุภกิจ วรรธนะดิษฐ์” หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการพาณิชย์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า แม้ว่า 2G ทรู จะให้บริการทางการพาณิชย์ช้ากว่าค่ายอื่น แต่ “ทรู” คือ ผู้ให้บริการรายแรกที่เปิดบริการ 3G และ 4G ซึ่งแน่นอนว่า สำหรับ 5G ที่กำลังจะมาถึง ทรูก็คาดหวังว่าจะเป็นรายแรกเช่นกัน

“สิ่งสำคัญที่ทำให้ 5G เกิดขึ้นได้ คือ การหาพันธมิตร โดยได้เป็นพันธมิตรกับบริษัทไชน่าโมบายล์ ผู้ให้บริการทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำของโลก ที่มีฐานลูกค้าที่มากที่สุดในโลกกว่า 925 ล้านราย ซึ่งทางทรูก็ได้นำจุดเด่นทางกลยุทธ์ของไชน่าโมบายล์มาปรับใช้”

ด้าน “พิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์” หัวหน้าคณะทำงาน และกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บริษัทเดียวกัน กล่าวเสริมว่า “ภาคเกษตรกรรม” คือ กลุ่มที่ควรนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคการเกษตร 5.0 และภาคอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง

เนื่องจาก 5G นั้นมีคุณสมบัติหลักที่โดดเด่น 3 เรื่อง คือ 1) ความเร็วสูง ที่มีความรวดเร็วขึ้น ซึ่งมากกว่า 4G ถึง 20 เท่า 2) ความหน่วงต่ำ เครือข่าย 1G จนถึง 4G จะมีความหน่วงสูงกว่า จึงทำให้ช้ากว่า 5G 3) จะมีการติดต่อสื่อสาร และเชื่อมโยงกันระหว่างอุปกรณ์มากขึ้น ใน 1 พื้นที่อาจจะมีการเชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์ IOT (internet of things) มากขึ้น ซึ่งอาจจะมีปริมาณเป็นหลักแสน หรือหลักล้าน

ฟากคู่แข่งรายสำคัญอย่าง “เอไอเอส” ที่เป็นเจ้าตลาดโมบายในไทยก็ไม่น้อยหน้า ชิงเปิดงาน “AIS 5G ที่ 1 ตัวจริง ทดสอบแล้วทั่วไทย” ที่สามย่านมิตรทาวน์ คอมมิวนิตี้แห่งใหม่ เมื่อ 13 ธ.ค. และจะจัดยาวไปถึง 3 ม.ค. 2563

โดย “วสิษฐ์ วัฒนศัพท์” หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ก็เพื่อกระตุ้นการรับรู้ สร้างความตระหนักให้กับอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นผู้ใช้งานเป้าหมายของ 5G รวมไปถึงประชาชนทั่วไปให้รับรู้ว่า “จะเกิดอะไรขึ้น” และ “เอไอเอสพร้อมมาก”

ด้วยโชว์เคสที่ได้มีการทดลองทดสอบใช้จริงแล้วทั่วประเทศ ด้วยการเลือกแต่ละโชว์เคสที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ อาทิ ในภาคเหนือ จะเน้นการโชว์การใช้งานสำหรับภาคการเกษตร งานโชว์เคสในภาคตะวันออกจะเป็นโซลูชั่นที่ซัพพอร์ตภาคอุตสาหกรรมการผลิต

“เอไอเอสเป็นคนเดียวที่ยิ่งเข้าไปในทุกการทดลองทดสอบ เพื่อหา used case ใหม่ ๆ ที่สามารถใช้ได้จริง รวมถึงเริ่มคุยกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อหาพาร์ตเนอร์”

และในต้นปี 2563 จะเห็นการเปิดตัวพาร์ตเนอร์ที่จะนำไปใช้จริง ในสถานการณ์จริง สภาพแวดล้อมจริง เพราะขณะนี้เอไอเอสมี 10 used case 5G ในมือพร้อมให้บริการแล้ว โดยเฉพาะโซลูชั่นในพื้นที่เสี่ยงภัยที่มีดีมานด์สูง

“สิ่งสำคัญสำหรับ 5G คือ พาร์ตเนอร์และอีโคซิสเต็ม ซึ่งงานครั้งนี้เอไอเอสไม่ได้โชว์ used case แต่โชว์พาร์ทเนอร์ เพื่อให้เห็นว่า เรามีเยอะ”

ทั้งยังเปิดเผยว่า “แค่คลื่นที่เอไอเอสมีในมือ ก็พร้อมให้บริการ 5G ได้” เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาเพื่อเคลียร์คลื่นให้พร้อมใช้งานก่อน

เรียกว่าตอนนี้ เทคโนโลยีพร้อม โอเปอเรเตอร์พร้อม แต่ยังไม่มีโอเปอเรเตอร์รายใดพูดถึงการจะเข้าประมูลคลื่นจาก “กสทช.”