GET เร่งดึงลูกค้าให้ติดแอป เพิ่มพื้นที่บริการ-ลุยเพย์เมนต์

น้องใหม่เข้าตลาดมายังไม่ครบปี  แต่ “GET” ที่มียูนิคอร์นแดนอิเหนา “โกเจ็ก” ก็เขย่าให้ตลาดธุรกิจบริการร่วมขับขี่ (ride-hailing) ส่งคนส่งของส่งอาหารในไทย ยิ่งคึกคักแข่งขันกันดุเดือด ด้วยจุดเด่นด้านราคา ซึ่ง “ภิญญา นิตยาเกษรวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GET เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดรวมปีนี้โตขึ้น 6 เท่า และคาดว่าปี 2563 จะโตขึ้นอีก 2 เท่า แต่ “สงครามราคา” น่าจะผ่อนคลายลง เพราะทุกรายต่างมองถึงความ “ยั่งยืน” ในธุรกิจ

แม้ GET จะโตเร็วไม่ถึงปีมียอดดาวน์โหลดกว่า 2 ล้านครั้ง เกินเป้าที่ตั้งไว้ 1 ล้านราย ยอดคนขับเพิ่มเป็น 40,000 คน ก็ยังเน้นเติบโตแบบยั่งยืน เป็นเป้าหมายหลักต่อในปีหน้า

“เงินลงทุนได้มากก็หมดไป ฉะนั้นเราต้องแสดงให้เห็นความสามารถในการทำกำไรด้วย”

จะทำให้ยั่งยืนได้นั้นสเกลตัวให้ใหญ่ขึ้น และการหาช่องทางรายได้เพิ่ม ซึ่งจะทำได้ต้องมาจาก “คุณภาพบริการ” ที่มัดใจลูกค้าและคู่ค้าที่เป็นร้านค้าต่าง ๆ ทำให้เกิดพฤติกรรม “ติดแอป”

1 ในนั้นคือพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ที่จะเปิดตัวปีหน้า ได้แก่ 1.GET Pay ที่จะเริ่มใช้ในระบบนิเวศของ GET ก่อนพัฒนาไปถึงไมโครไฟแนนซ์  2.GET Runner คนเดินส่งอาหาร ที่ทำให้ลูกค้าได้รับของได้เร็วขึ้น ปัจจุบันทดลองแล้วเฉลี่ย 19 นาที 3.Merchants App แอปฝั่งร้านอาหาร และ 4.Drivers App แอปที่ทั้ง 2 แอปพลิเคชั่นจะปรับให้ใช้งานง่าย และมีระบบซีเคียวริตี้ที่ดีขึ้น มีข้อมูลวิเคราะห์ให้กับผู้ใช้งานด้วย

และเตรียมขยายพื้นที่ให้บริการไปตามหัวเมืองใหญ่เพิ่มขึ้น จากเดิมโฟกัสในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล

ส่วนการขยายบริการ ride-hailing ที่ใช้รถยนต์ต้องรอความชัดเจนด้านกฎหมายก่อน สำหรับเป้าปี 2563 คือ เพิ่มผู้ใช้ในกรุงเทพฯอีก 1 ล้านคน และนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาบริการให้คนขับ ร้านอาหาร และผู้ใช้บริการ