“อีคอมเมิร์ซ” โตสวนเศรษฐกิจแผ่ว เจาะพฤติกรรมนักช็อปไทยบน “ลาซาด้า”

ช็อปปิ้งออนไลน์ยังโตวันโตคืน ยักษ์อีคอมเมิร์ซ “ลาซาด้า” ตั้งเป้าโตไว้สูงเกิน 100% ทุกปี เพราะค้าขายออนไลน์มีสัดส่วนแค่ 3-4% ของค้าปลีกรวม จึงมีโอกาสโตได้อีกเยอะ ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน “ผู้บริโภค” ระมัดระวังการใช้จ่ายจึงหันมาเลือกซื้อสินค้าช่วงที่มีการจัดแคมเปญลดราคาซึ่งสารพัดแคมเปญของยักษ์ดิจิทัลแพลตฟอร์ม เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ

“12.12 แกรนด์เซล” ส่งท้ายปี 2562 ของ “ลาซาด้า” (Lazada) ก็ด้วย ทำลายสถิติตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในไทยกันเลยทีเดียว ด้วยจำนวนผู้ใช้งานแอ็กทีฟและยอดขายสูงสุด แต่ก็ตามสไตล์ที่ไม่เปิดเผยตัวเลขแบบลงรายละเอียด

“ภารดี สินธวณรงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าทุกครั้งที่จัดแคมเปญกระตุ้นตลาดก็จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ทำให้ยอดขายโดยรวมเติบโตต่อเนื่อง เพราะมีการจัดแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อตลอด ล่าสุด 12.12 แกรนด์เซล ตั้งแต่ชั่วโมงแรกมียอดสั่งซื้อสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 3 เท่า แถมนักช็อปใช้เวลาบนแอปเพิ่มขึ้น 60% จาก 10 นาที เป็น 16 นาที

“11.11 ก่อนหน้านี้เป็นแคมเปญใหญ่ที่สุดของเรา ซึ่งประสบความสำเร็จมาก จึงน่าจะเป็นโมเมนตัมมาถึง 12.12 ทำให้ครั้งนี้ทำลายสถิติ ทั้งจำนวนผู้ใช้งานแอ็กทีฟสูงสุด รวมถึงในแง่ผู้ขายก็เพิ่มขึ้นถึง 100%”

เมื่อเจาะไปยังสินค้าขายดีพบว่า อันดับ 1 ยังเป็นโทรศัพท์มือถือ (แอปเปิล, ซัมซุุง, วีโว่, ออปโป้ และเสี่ยวมี่) ตามด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า (ซัมซุง, แอลจี, ทีซีแอล, ไฮเออร์ และฟิลิปส์), สินค้าแม่และเด็ก (มามี่ โพโค, เบบี้เลิฟ, ENF, ไฮคิว และเอส-26), สินค้าไลฟ์สไตล์, สุขภาพและความงาม และสินค้าแฟชั่น

“ลาซาด้า” เปิดเผยข้อมูลที่สุดแห่งปีว่า มือถือยังครองแชมป์สินค้าที่มียอดขายดีที่สุด, การเติมเงินมือถือครองแชมป์สินค้าที่มีจำนวนคำสั่งซื้อมากที่สุด, กระเป๋าสะพายเป็นสินค้าที่มีการค้นหามากที่สุด ขณะที่ “วันจันทร์” เป็นวันที่มีคนช็อปออนไลน์มากที่สุด และ 10-11 โมง คนช็อปเยอะที่สุด

นอกจากการมีกิจกรรมกระตุ้นตลาดต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี เบิร์ทเดย์เซล, Women”s Festival, กลางปี Mid-Year Festival และครึ่งปีหลังกับดับเบิลเดย์ ทั้ง 9.9/11.11 และ12.12 แล้ว ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์, ระบบชำระเงิน และการนำเทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ มาเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ซื้อ และเพื่อผลักดันให้คนขายทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยปีนี้ลงทุนกว่าพันล้านเพิ่มขีดความสามารถของระบบโลจิสติกส์และศูนย์กระจายสินค้า ทำให้ส่งสินค้าได้สูงสุดชั่วโมงละ 36,000 ชิ้น


“เป้าหมายของเราคือเป็นมากกว่าแพลตฟอร์มช็อปปิ้ง ปีนี้จึงริเริ่มโครงการใหม่ ๆ นำกลยุทธ์ช็อปเปอร์เทนเมนต์มาใช้ มี LazLive ไลฟ์สตรีม, จัดแฟชั่นโชว์ See Now Buy Now สร้างประสบการณ์ใหม่ในการช็อปปิ้ง มีอินเตอร์แอ็กทีฟเกมทำให้การช็อปปิ้งสนุกขึ้น ตอบโจทย์คนไทยที่ชื่นชอบความสนุก เชื่อว่าจะทำให้เติบโตกว่า 100% ทุกปี ขณะที่ตลาดรวมปี 2560-2562 จะโต 10-12% เพิ่มเป็นปีละ 20% ไปจนถึงปี 2565