5G เทคโนโลยีใหม่ที่กำลังจะเข้ามาในประเทศไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็ล้วนตื่นตัวที่จะทำ regulatory sandbox หรือสนามทดสอบสำหรับแนวคิดทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ
และแน่นอนว่า “ทรู” เป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ล่าสุดได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) และ ZTE พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี 5G จัดงาน True-PSU Showcase ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
“พิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์” หัวหน้าคณะทำงาน และกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่าได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งมีความแข็งแรง และมีความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาเทคโนโลยี 5G และสามารถแสดงศักยภาพในการจัดทำกรณีตัวอย่างในการนำ 5G มาใช้ประโยชน์ได้อย่างดี และสามารถจับต้องได้จริง ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากเลยว่า เทคโนโลยี 5G ไปตอบโจทย์ use case ไหนได้บ้าง ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ทั่วโลกต้องการ
“เวลาเราทำ use case เรารู้ว่าเทคโนโลยีสามารถทำได้ 3 เรื่องนี้ แต่เวลาที่เรานำเทคโนโลยีไปใช้งานจริง 3 เรื่องนี้ ตอบโจทย์อะไรในการนำไปใช้งานจริง ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญมากกว่า ซึ่งประเทศไทยเองไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีไหน แล้วยิ่งเป็น transform technology หรือเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงโลก ประเทศไทยไม่เคยเป็น early adopter เลยแต่เป็น late adopter มาตลอดในทุกด้าน”
ฉะนั้นครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายของประเทศไทย ซึ่งทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันผลักดันอย่างเต็มที่ ให้เกิด ecosystem ของ 5G ขึ้นมา และจะต้องเป็น early adopter สำหรับ 5G ให้ได้ เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จาก 5G ทั้งในแง่ของ “ความเร็ว” ซึ่งเป็น use case แรก ๆ ที่จะทำให้ user หรือผู้ใช้ จับต้องได้ “ความหน่วงต่ำ” และความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลากหลาย และสำหรับประเทศไทย มีเรื่องสำคัญ 4 เรื่องหลัก ที่เทคโนโลยี 5G จะมาช่วยเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอน คือ
1) การศึกษา 2) การแพทย์และสุขภาพ 3) เกษตรกรรม และ4) อุตสาหกรรม ซึ่งสำหรับการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์นั้น เน้นการพัฒนาในเรื่องของ การแพทย์และสุขภาพ (healthcare) การรักษาความปลอดภัย (security) โดรน (drone) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่
โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ และได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งแพทย์ หน่วยงานความมั่นคง และภาคการศึกษาด้วย
