กลุ่มสามารถตุนงานในมือเพียบ มั่นใจดันรายได้แตะ 2 หมื่นล. ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า แม้ในปีนี้จะมีการคาดการณ์ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะยังไม่ดีนัก แต่หลังจากปีที่ผ่านมา กลุ่มสามารถได้พลิกฟื้นและวางรากฐานธุรกิจใหม่ที่จะมีโอกาสสร้างรายได้ต่อเนื่องในอนาคต เช่น การขยายไปทำ Banking Solution ทำระบบ core banking ให้กับเอสเอ็มอีแบงก์, แบงก์ ธ.ก.ส. รวมถึงการทำระบบคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจหลักให้กับ กฟภ. และโครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน (Underground Cable) เป็นต้น ตนจึงมั่นใจว่าจะทำให้เป็นปีแห่งการเติบโตของกลุ่มบริษัทได้

โดยปีนี้จะเริ่มรุกตลาดเพื่อขยายตลาดในหลายส่วนจึงมีการตั้งเป้าหมายรายได้ทั้งปีไว้ที่ 20,000 ล้านบาท

โดยมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีความต้องการสูง, ในธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ และในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต

สำหรับธุรกิจที่มีโอกาสสร้างรายได้ในปี 2563 ได้แก่ การติดตั้งเครือข่าย Digital Trunk Network ที่ครอบคลุมกว่า 90% เช่นกันกับธุรกิจ Cyber Security มีการเปิดบริษัท ซีเคียวอินโฟ ที่มีไอบีเอ็ม เป็นพันธมิตรรายเดียวในไทยในการนำเทคโนโลยี Watson AI มาใช้

และคาดว่าจะทำให้กลุ่มสามารถมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 40-50% ในสายธุรกิจ ICT กว่า 9,500 ล้านบาท

‘ที่ผ่านมา เราประสบปัญหาเยอะแยะในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ผลจากดิจิทัลต่างๆ ปิดธุรกิจมือถือไป 2-3 ปีก่อน กว่าจะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ หาอะไรมาทดแทนก็ไม่ง่าย ปีที่แล้วเป็นปีที่เราพลิกฟื้นทำให้รายได้เริ่มกลับมาโตและวางรากฐานธุรกิจทำให้ในปีนี้มีความพร้อมที่จะเติบโตได้ แม้สภาวะเศรษฐกิจอาจจะไม่สดใสนัก’

นายวัฒน์ชัยกล่าวด้วยว่ากลยุทธ์ธุรกิจปีนี้จะมุ่งไปยังการนำเสนอโซลูชั่นและเทคโนโลยีที่หลากหลาย (Unlimited Solutions) จากนโยบายรัฐที่จะก้าวสู่รัฐบาลดิจิทัล ทั้ง E-Public Services, Cyber Security, Green Technology เป็นต้น

โดยในปีนี้จะรุกธุรกิจ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น Finance Banking Solution รวมมูลค่ากว่า 3,000-4,000 ล้านบาท, Airport Solutions จากโครงการระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง และระบบตรวจสอบคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า ของ บมจ.การท่าอากาศยาน รวมกว่า 8,000 ล้านบาท

2.กลุ่มธุรกิจสร้างรายได้ประจำ ซึ่งในปี 2562 มีรายได้ 5,400 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 6,200 ล้านบาท และ 3.กลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตสูง เช่น การนำสายไฟฟ้าลงดิน และเตรียมนำบริษัทในเครือเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไตรมาส 2 ปีนี้ คือ บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ หรือ SAV

‘เรากำลังจะมีโครงการใหญ่ที่จะได้ในต้นปีนี้ ซึ่งดีเลย์มาจากปีที่แล้ว ก็จะได้เห็น และมีอีกหลายส่วนที่จะทยอยรับรู้รายได้ รวมถึงโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตอย่างธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการจัดการจราจรทางอากาศ เป็นต้น’