HP พลิกคอนเซ็ปต์ เจาะใจมิลเลนเนียล

Lightness in the New Era หรือการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ ด้าน คือ คอนเซ็ปต์ในการออกแบบของผลิตภัณฑ์พีซีและเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ของบริษัท เอชพี อิงค์ ประเทศไทย

“ลิม ชุน เต็ก” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอชพี อิงค์ ไทยแลนด์ อธิบายถึงแนวคิดของคอนเซ็ปต์นี้ว่า เมื่อ 5 ปีก่อน การใช้งานเครื่องพิมพ์และคอมพิวเตอร์พีซี ยังต้องใช้ LAN cable ซึ่งยังคงมีความซับซ้อน ยุ่งยาก แต่ปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไป ทุกคนต้องการความเร็วในการใช้งาน เพราะเราอยู่ในโลกที่มีการติดต่อสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา ความเร็วจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด

“ลิม ชุน เต็ก” ยังกล่าวว่า “digitalization หรือกระบวนการในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีการเติบโตอย่างรวดเร็วมากในประเทศไทย และปัจจุบันในประเทศไทยก็มีคนในกลุ่มมิลเลนเนียลกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ทางเอชพีเองจึงอยากจะใช้โอกาสตรงนี้ในการทำธุรกิจให้มากขึ้น ทั้งยังมองว่า ตลาดในประเทศไทยมีความสำคัญมาก ซึ่งได้วางแผนกิจกรรมทางการตลาดค่อนข้างมาก รวมไปถึงการผลักดันในเรื่องของการลงทุนในประเทศไทยด้วย”

“ทั้งนี้ เอชพีได้ยึดกลยุทธ์ advance disrupt และ transform ซึ่งนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทางเอชพีได้เปิดตัวนั้น ก็เพื่อทำให้ตอบโจทย์ตลาดในประเทศไทย และผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสกับนวัตกรรมที่สามารถทำงานได้หลายรูปแบบ สมรรถภาพสูง ทนทาน และสามารถเชื่อมต่อกับนวัตกรรมอื่น ๆ ได้” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอชพี อิงค์ ไทยแลนด์ กล่าว

โดยผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ที่เปิดตัวภายใต้คอนเซ็ปต์ Lightness in the New Era นั้น ได้แก่ 1) HP Elite Dragonfly โน้ตบุ๊กคอนเวอร์ติเบิลพีซีที่ผลิตจากโลหะแมกนีเซียม มาในสี dragonfly blue มีขนาดเล็กเบาบางเพียงไม่ถึง 1 กิโลกรัม เน้นการทำงานแบบคล่องตัว ราคาเริ่มต้นที่ 46,990 บาท 2) HP Spectre x360 โน้ตบุ๊กคอนเวอร์ติเบิลพีซีที่มีขนาดเล็กที่สุด จอในอัตราส่วน 90% มาในสี Poseidon blue ตัดกับสี copper luxe และเหลี่ยมหน้าตัดเลียนแบบการเจียระไนอัญมณี ราคาเริ่มต้นที่ 42,990 บาท

3) HP Neverstop Laser เครื่องพิมพ์เลเซอร์ตัวแรกที่สามารถเติมหมึกผงได้ด้วยตัวเอง ออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและโฮมออฟฟิศ สามารถสั่งพิมพ์ สแกน และทำสำเนาได้ ผ่านแอปพลิเคชั่น HP Smart App ราคาเริ่มต้นที่ 7,990 บาท และ 4) HP Smart Tank เครื่องพิมพ์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบการที่อยากเพิ่มศักยภาพการทำงานด้วยอุปกรณ์ที่ประหยัดเวลา ซึ่งสามารถพิมพ์สีได้สูงสุดที่ 8,000 แผ่น และรองรับการทำงานผ่านแอปพลิเคชั่น HP Smart App เช่นกัน ราคาเริ่มต้นที่ 4,410 บาท

เอชพียังคงคำนึงถึงการสร้างความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม โดยพยายามเป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างประโยชน์สูงสุด และลดภาระต่อทรัพยากรโลก ซึ่งใช้หลักการในการพัฒนาธุรกิจที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ยึดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจแบบต่ำ เพื่อช่วยคู่ค้าสร้างอนาคตด้วยพอร์ตผลิตภัณฑ์ และการบริการที่สร้างความยั่งยืน ดังผลิตภัณฑ์ที่เอชพีได้เปิดตัวไปนั้น

ไม่ว่าจะเป็น HP Elite Dragonfly ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กเครื่องแรกของโลกที่มีส่วนประกอบมาจากพลาสติกในมหาสมุทร และ HP Neverstop Laser ที่ใช้ตลับหมึกพิมพ์ที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล 75 เปอร์เซ็นต์ และตัวเครื่องพิมพ์ที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล 25 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังคงสมรรถภาพและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไว้