เปิดโรดแมป “สมาร์ทซิตี้” ดีป้าปักธงอีก 2 ปี 100 เมือง 76 จังหวัด ย้ำแค่ฟรีไวไฟ ยังสมาร์ทไม่พอ ต้องยั่งยืนเป็นสุข เดินหน้าจับมือมาสเตอร์การ์ดเข้าเครือข่าย “City Possible” หวังร่วมแชร์ข้อมูล-โซลูชั่นแก้ปัญหาเมือง
นายภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยว่า แผนการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ชาติโดยดีป้าได้ตั้งเป้าจะพัฒนาสมาร์ทซิตี้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยปีนี้ให้ได้ 60 เมืองจาก 30 จังหวัด และให้ได้ 100 เมือง 76 จังหวัดภายในปี 2565 พร้อมกับมี 3 เมืองที่ติดอันดับสมาร์ทซิตี้ของโลกด้วย และในช่วงกลางปีนี้ดีป้าจะเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน World Smart City Showcase เพื่อเชิญเมืองต่าง ๆ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในการเปลี่ยนแปลงเมืองสู่การเป็นเมืองน่าอยู่เมืองอัจฉริยะ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
นอกจากนี้ยังได้ทำบันทึกความตกลงร่วมกันกับ “มาสเตอร์การ์ด” เพื่อเข้าร่วมโครงการ City Possible ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือที่มีกว่า 40 เมืองทั่วโลกเข้าร่วมเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล งานวิจัย และโซลูชั่นต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาเมืองร่วมกัน อาทิ ฐานข้อมูล data & insights ทั้งการเข้าร่วมเครือข่ายนี้ ยังจะเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัพไทยเข้าถึงข้อมูลและปัญหาของเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างโซลูชั่นที่จะแก้ปัญหาให้กับเมืองเหล่านั้นได้ด้วย
“สมาร์ทซิตี้ไม่ใช่มีแค่โครงข่ายฟรีไวไฟ แต่ต้องนำเทคโนโลยีเข้าไปตอบโจทย์แก้ปัญหาของเมืองได้อย่างตรงจุด ทำให้ชุมชนมีความน่าอยู่ อย่างยั่งยืนและมีความสุข ไม่ใช่มีเทคโนโลยีอย่างไร้เป้าหมาย เพราะแต่ละเมืองที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ยะลา สิ่งที่เขาต้องการคือ เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย”
นายมิเกล กามิโน จูเนียร์ รองประธานกรรมการบริหารเมืองระดับสากล มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า แต่ละเมืองมักเผชิญปัญหาที่คล้ายกันแต่ต่างคนต่างแก้ปัญหา ฉะนั้นการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ข้อมูลต่าง ๆ จะทำให้แก้ปัญหาได้เร็วและยั่งยืนขึ้น
“City Possible ได้ทำให้ 300 เมือง 50 ประเทศได้ทำกว่า 200 กิจกรรมร่วมกัน ทำให้เกิดหนทางแก้ปัญหาใหม่ ๆ ได้ ซึ่งการแก้ปัญหาเมืองถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเมืองคือที่อยู่อาศัยของประชากรกว่า 70% ทั่วโลก ที่ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 80% ของ GDP ในโลก แต่ก็ทำให้เกิดปัญหามลพิษอย่างมาก อาทิ 70% ของปัญหาภาวะเรือนกระจกเกิดขึ้นจากเมือง”