Facebook Inc. และ Bain & Company ได้ทำการศึกษาภายใต้หัวข้อ “Riding the Digital Wave: Southeast Asia’s Discovery Generation” โดยได้ทำการสำรวจ 12,965 คนในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สัมภาษณ์ผู้บริหารและนักลงทุนอีกจำนวน 30 คนการศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าในปี 2558 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผู้บริโภคที่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อสินค้าหรือนักช้อปออนไลน์อยู่ราว 90 ล้านคนและในปี 2561 ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 250 ล้านคนทั้งยังคาดการณ์ว่าใน ปี 2568 จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเป็น 310 ล้านคน
ทั้งยังประเมินว่ามูลค่าการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าออนไลน์จะเติบโตถึง 4 เท่าทั่วทั้งภูมิภาค และตั้งเป้าการเติบโตมูลค่าการใช้จ่ายถึงเกือบ 5 เท่าในประเทศไทย
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของผู้บริโภคชาวดิจิทัลต่อปีในอาเซียนจะอยู่ที่ 390 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2568 เติบโต 3.2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2561
นายจอห์น แว็กเนอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า ข้อสรุปหลัก จากงานวิจัยครั้งนี้ เผยให้เห็นว่า ทุกวันนี้การซื้อขายสินค้าไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่หน้าร้านค้า หรือ ในรูปแบบ Offline เท่านั้น แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ด้วย อีกทั้งการเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ของผู้บริโภคนั้น ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่ในเขตเมืองหลวงเท่านั้น แต่ในชนบทก็มีการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่นเดียวกัน
นายดิเรก เกศวการุณย์ พาร์ทเนอร์ เบน แอนด์ คอมพานี กล่าวว่า ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของการก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงของการซื้อขายออนไลน์ในระดับภูมิภาค เพราะเนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยมีการซื้อสินค้าออนไลน์ค่อนข้างมาก แบรนด์ต่างๆ จึงต้องมีความตื่นตัว และสร้างความสนใจแก่ผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที โดยต้องมีการจัดทำแผนการตลาดและการขายให้มีความสอดคล้องกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังต้องค้นหาแนวทางใหม่ในการสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าในเชิงบวกให้กับผู้บริโภคในยุคดิจิทัลด้วย