แม้จะเพิ่งเปิดตัว 70 บริการใหม่ บนเวที Re:Invent 2019 งานใหญ่ประจำปีของ AWS ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อธันวาคมที่ผ่านมา แต่ “ชวพล จริยาวิโรจน์” ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (AWS) เปิดเผยว่าจะมีหลายบริการที่น่าจะนำเข้ามาทำตลาดในไทยได้เร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะกลุ่มบริการที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่กังวลเรื่องการนำข้อมูลไปเก็บไว้นอกองค์กร และกลุ่มที่ต้องการ “ความหน่วงต่ำ” มาก ๆ ในการรับ-ส่งข้อมูล
โดยบริการแรก ๆ ที่น่าจะได้เห็นคือ “AWS Outpost” เซิร์ฟเวอร์ที่บริหารจัดการโดย AWS แต่ตัวเซิร์ฟเวอร์จะติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง ซึ่งจะแก้ปัญหาข้อกังวลเรื่องการนำข้อมูลเก็บนอกองค์กร ส่วนอีก 2 บริการที่น่าจะได้เห็นในไทย ได้แก่ “AWS Local Zones” บริการศูนย์ข้อมูลขนาดย่อมที่จะตั้งในเมืองต่าง ๆ เพื่อจะย่นเวลาในการ “รับ-ส่ง” ข้อมูลระหว่างจุดได้เร็วขึ้น ช่วยแก้ปัญหา “ความหน่วง” เหมาะสำหรับสตรีมมิ่งหรือเกมออนไลน์ และบริการ “AWS Wave-length” บริการคลาวด์บนศูนย์ข้อมูลของผู้ให้บริการเครือข่าย 5G เพื่อลดระยะเวลาหน่วงระหว่างอุปกรณ์ต้นทางกับปลายทางบนเครือข่ายให้มีความหน่วงต่ำที่สุด โดยทั้งคู่จะมี AWSเข้าไปช่วยบริหารจัดการศูนย์ข้อมูล
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
แต่ด้วยนโยบายของ AWS ที่จะไม่ประกาศล่วงหน้าว่าจะเปิดบริการเมื่อใด จึงไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า จะได้เห็นบริการนี้ในช่วงไหน แต่ “เร็วกว่า 2 ปีแน่นอน”
“ตลาดในประเทศไทย ณ ปัจจุบันลูกค้าเข้าใจถึงความสำคัญและ ‘พลัง’ ของข้อมูลที่มีผลต่อธุรกิจ จึงเป็นตลาดที่เอื้อให้นำโซลูชั่นและบริการต่าง ๆ ที่เปิดตัวในเวที Re:Invent 2019 มาให้บริการ ซึ่งบริการคลาวด์ในประเทศไทยเติบโตทุกเซ็กเตอร์ ทั้งกลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ SMEs สตาร์ตอัพ ยิ่งมี 5G จะยิ่งทำให้เกิดการลงทันในคลาวด์มากขึ้น”
ที่สำคัญคือ ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี องค์กรต่าง ๆ ก็ตระหนักแล้วว่า ยิ่งจะต้องใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพในการผลิตและการดูแลลูกค้า อาทิ การนำ AI มาใช้ในการดูแลลูกค้าให้มากขึ้น ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ในอีก 2 ปีข้างหน้า จะมีผู้ประกอบการกว่า 20% ที่นำ AI มาใช้พูดคุยกับลูกค้า
