ไอซีที

บุกหนักอีคอมเมิร์ซ LINE ติดอาวุธ SMEs หนุนโต

เดินหน้าสู่เป้าหมาย Life on LINE อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศบุกหนักอีคอมเมิร์ซด้วยการติดอาวุธให้ SMEs ได้ใช้ประโยชน์จากโลกออนไลน์ได้เต็มที่ เติมเต็มอีโคซิสเต็มของ LINE

“สกุลรัตน์ ตันยงศิริ” หัวหน้าธุรกิจ SMEs LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้ LINE จะรุกหนักด้านอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง ในปี 2561 เติบโตถึง 14.01% มูลค่าตลาดรวมเกินกว่า 3.1 ล้านล้านบาท แต่ในขณะเดียวกันก็พบว่าจากสินค้าที่วางขายบนอีมาร์เก็ตเพลซกว่า 174 ล้านชิ้นนั้น กว่า 135 ล้านชิ้นเป็นสินค้าที่ส่งจากต่างประเทศเข้ามาขายในเมืองไทย จากผู้ค้าต่างชาติ 81,000 ราย ขณะที่สินค้าของประเทศไทยมียอดขายเพียง 39 ล้านชิ้น จากผู้ค้ากว่า 1 ล้านราย

“เป็นสัดส่วนที่น่าตกใจ” เพราะในประเทศไทยมี SMEs กว่า 3.07 ล้านราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจคิดเป็น 43.9% ของ GDP

“LINE จึงพยายามหาช่องทางและเครื่องมือที่จะช่วยให้ทุกธุรกิจได้สามารถใช้ประโยชน์จากการเติบโตนี้ได้อย่างเต็มที่ นอกเหนือจากบริการ LINE Official Account : LINE OA”
MyShop เสริมแกร่ง SMEs

เนื่องจากการค้าออนไลน์บนโซเชียลมีเดียได้รับความนิยมในไทยสูงมาก และพบว่า 40% ของการปิดยอดขายทำได้ผ่าน “แชต” ขณะที่ผู้ใช้งาน LINE ในปัจจุบันมีกว่า 45 ล้านราย และมีผลสำรวจยืนยันว่าเป็นช่องทางโซเชียลมีเดียที่มีการใช้งานมากที่สุดในทุกช่วงวัย เฉลี่ยที่ 98.6% แม้ว่าผู้ใช้งานจะมีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน ทั้งยังใช้เวลามากกว่า 67 นาทีต่อวัน LINE จึงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่สำหรับ LINE Official Account ที่มีกว่า 3 ล้านราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ครอบคลุมในทุกธุรกิจให้มีโอกาสในการค้าขายออนไลน์ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์ “MyShop” ซึ่งผู้ใช้ LINE OA ทุกบัญชีสามารถเปิดใช้งานได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่ม

“MyShop จะเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยทำแค็ตตาล็อกให้เลือกซื้อสินค้า ออกใบสั่งซื้อ เป็นช่องทางเข้าสู่การชำระเงิน การระบุวิธีการจัดส่ง ให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ผ่าน LINE OA โดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอหรือเข้าไปยังแอปพลิเคชั่นอื่นอีก ทำให้การบริการลูกค้าลื่นไหลไร้รอยต่อ แต่ยังคงความซีเคียวริตี้ของระบบชำระเงินได้ เรียกว่าใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีก็สามารถปิดการขายรับชำระเงินได้ทันที และยังมีระบบหลังบ้านที่ให้เจ้าของร้านบริหารสต๊อกได้แบบเรียลไทม์ สรุปยอดการซื้อขายได้”

เติมอีโคซิสเต็ม LINE

“MyShop ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคและซื้อสินค้าได้สะดวกมากขึ้น เป็นการเสริมจาก LINE Ads ที่เป็นช่องทางโฆษณาทั้ง LINE Timeline LINE TODAY LINE Smart Channel เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจบน LINE ทั้งในการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ การสื่อสารกับลูกค้า สร้างความเชื่อมั่น และปิดการขายได้อย่างง่ายที่สุด ทำให้ลูกค้าใหม่กลายเป็นลูกค้าประจำ ซึ่งมีงานวิจัยระดับโลกยืนยันแล้วว่าการเพิ่มจำนวนลูกค้าประจำ 5% จะทำให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นได้ตั้งแต่ 10-95%”

โดยหลังจากเปิดให้ใช้งานได้ราว 2 สัปดาห์ มีผู้ใช้งาน MyShop แล้ว 3,000-4,000 ราย และคาดว่าภายใน 6 เดือนจะมีผู้ใช้งานราว 10,000 รายขณะที่ในเฟส 2 ที่จะพยายามให้เริ่มต้นได้ในปีนี้นั้น จะมีการคัดเลือก
ผู้ใช้งาน MyShop ให้สามารถเข้าเสนอขายสินค้าให้กับผู้ใช้งาน LINE ผ่านช่องทางของ LINE Shopping ซึ่งปัจจุบันเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมร้านค้าชื่อดังในโซเชียลมีเดียที่ผู้ใช้งาน LINE 45 ล้านรายสามารถกดซื้อสินค้าได้ทันที

“กำลังหารือเรื่องหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม แต่จะต้องเป็นร้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีทรานแซ็กชั่นมากในระดับหนึ่ง ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งาน LINE Shopping ได้เข้าถึงสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น”

เคล็ดลับค้าขายบน LINE OA

หัวหน้าธุรกิจ SMEs LINE ประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวทางการค้าขายด้วย LINE OA ให้ประสบความสำเร็จว่า ปัจจุบันมีฟีเจอร์มากมายบน LINE OA ที่จะเป็นเครื่องมือในการทำตลาด การสื่อสารกับลูกค้า ซึ่ง LINE จะมีการอบรมผ่านทางออนไลน์ ผ่าน LINE Official Account “LINE for Business” โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอยู่เป็นประจำ

แต่สิ่งสำคัญในการใช้ LINE OA ขายสินค้า คือ ต้องมีแค็ตตาล็อกที่ระบุรายละเอียดสินค้าอย่างชัดเจน ทั้งรูปภาพที่สวยงาม ขนาดสินค้า และต้องมีการแชตสื่อสารกับลูกค้าที่มีแคแร็กเตอร์ให้ชัดเจน เกิดความไว้วางใจ มีความเชื่อมั่นที่จะซื้อสินค้า รวมถึงให้ความสำคัญกับบริการตั้งแต่ก่อนการขายจนถึงหลังการขาย

“สถานการณ์ปัจจุบันที่คนไม่ค่อยออกจากบ้าน ทำให้มีผลกระทบกับธุรกิจที่มีเฉพาะช่องทางออฟไลน์ ขณะที่
ธุรกิจออนไลน์จะไปได้ดีในช่วงโอกาสนี้ SMEs จึงควรให้ความสำคัญกับการเชื่อมออนไลน์-ออฟไลน์ให้ผนวกรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแบบไร้รอยต่อ”

โดยปัจจุบันผู้ประกอบการบน LINE OA ที่มีมากเป็นอันดับ 1 คือ สินค้าแฟชั่น อาหาร และความงาม ซึ่งมีสัดส่วนราว 70% ของ Official Account ทั้งหมด