ลุยมาร์เก็ตติ้งดิจิทัลสู้โควิด

วายดีเอ็มชี้ในวิกฤตยังมีโอกาส แนะแบรนด์รุกมาร์เก็ตติ้งดิจิทัลรับพฤติกรรมผู้บริโภคหนีโควิด-19 พร้อมลุยซื้อ “Mullenlowe” ตุนเข้าพอร์ตเสริมแกร่งชูจุดเด่นบริการแบบครบวงจร

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจเอเยนซี่แอดเวอร์ไทซิ่งปีนี้จะไม่ดีมากนัก เนื่องจากมีปัจจัยลบค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลให้ในหลายธุรกิจที่เป็นลูกค้าของเอเยนซี่แอดเวอร์ไทซิ่งเริ่มชะลอการใช้เงิน ปรับลดงบประมาณด้านการตลาด รวมถึงหยุดการจัดกิจกรรมต่าง ๆ 

แต่ยังมีโอกาสในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้กับการทำธุรกิจเอเยนซี่แอดเวอร์ไทซิ่ง ทั้งจากในส่วนการเข้าถึงผู้บริโภคที่ส่วนใหญ่ใช้เวลากับสื่อออนไลน์มากกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน มีการใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ มากขึ้น จึงทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ต้องเน้นการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น ทั้งในแง่ของการสร้างการรับรู้แบรนด์ การสร้างประสบการณ์ที่ดีในการซื้อสินค้าและใช้บริการ ขณะเดียวกันก็ยังต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการแก้ปัญหาและวางกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้กับองค์กรธุรกิจ

“แนวโน้มในอนาคตของธุรกิจเอเยนซี่แอดเวอร์ไทซิ่ง จะมีปัญหาในการ transform เพราะเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่คงที่ และการเข้ามาของเทคโนโลยีที่รวดเร็วและรุนแรง วายดีเอ็มปรับตัวอยู่ตลอดเวลา โดยได้ใช้ tools (เครื่องมือ) การนำเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ มาปรับใช้ data (ข้อมูล) การเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ และ people (คน) การพัฒนาคน ทั้ง 3 ส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเอเยนซี่แอดเวอร์ไทซิ่งยังคงดำเนินต่อไปได้”

ด้านนางสาวทุติยา ดิสภานุรัตน์ Head of O2O Business วายดีเอ็ม กล่าวเสริมว่า บริษัทมีจุดแข็งในเรื่องของดิจิทัลอยู่แล้ว จึงเข้าซื้อกิจการ “Mullenlowe Thailand” (เดิมคือ ลินตาส) เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านการตลาดครบวงจรทั้งออฟไลน์และออนไลน์แบบ one stop service  

ปัจจุบัน วายดีเอ็ม ไทยแลนด์ มีพนักงานมากกว่า 200 คน และมีธุรกิจในเครือทั้งสิ้น 10 บริษัท ปีที่แล้วมีรายได้ 580 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้เพิ่มเป็น 650 ล้านบาท