เปิดให้ใช้ฟรี 6 เดือน ! Kaspersky ช่วยหน่วยงานทางการแพทย์รับมือภัยไซเบอร์

“เอฟจีนิย่า นอโมวา” รองประธานฝ่ายเครือข่ายการขายระดับโลก แคสเปอร์สกี้ ผู้ให้บริการโซลูชั่นรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เปิดเผยว่า ในช่วงวิกฤตของการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 หน่วยงานด้านสาธารณสุขและการแพทย์ต่างต้องทำงานท่ามกลางความกดดันหลายด้าน และต้องการการทำงานที่ต่อเนื่อง ซึ่งความปลอดภัยของข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง

แคสเปอร์สกี้จึงเปิดให้หน่วยงานทางการแพทย์และสาธารณสุขได้ใช้โปรดักส์องค์กรโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เป็นเวลา 6 เดือน ได้4แก่ Kaspersky Endpoint Security สำหรับธุรกิจขั้นสูง – โซลูชั่นหลักในการปกป้องเวิร์กสเตชั่นและเซิร์ฟเวอร์ Kaspersky Endpoint Security Cloud Plus – โซลูชั่นคลาวด์สำหรับเวิร์กสเตชั่น  Kaspersky Security สำหรับ Microsoft Office 365 – การป้องกันที่ครอบคลุมสำหรับบริการความร่วมมือ Microsoft Office 365 Kaspersky Hybrid Cloud Security (เซิร์ฟเวอร์องค์กร) – ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้รักษาความปลอดภัยระบบคลาวด์เสมือนและระบบคลาวด์

โดยหน่วยงานที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kaspersky.com/blog/protecting-healthcare-organizations/ และ https://www.kaspersky.co.th/

พร้อมกันนี้แคสเปอร์สกี้ยังเปิดเผยด้วยว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เปิดช่องให้อาชญากรไซเบอร์เข้ามาโจมตีระบบมากขึ้น โดยเฉพาะการหลอกลวงด้วยการฟิชชิ่ง  ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ “Bloomberg” รายงานว่า กรมสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐอเมริกา ถูกโจมตีทางไซเบอร์เมื่อ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นการโจมตีแบบ DDoS ครั้งใหญ่ เป็นอุปสรรคกับการประสานในช่วงวิกฤต COVID-19

ดังนั้นเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานทางการแพทย์ แคสเปอร์สกี้ แนะนำว่า องค์กรต้องให้ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์และความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์แก่บุคลากรการแพทย์ รวมถึงพนักงานธุรการของโรงพยาบาล โดยเฉพาะการตั้งรหัสผ่าน ความปลอดภัยของอีเมล์ การใช้ USB ดีไวซ์  การใช้เว็บให้ปลอดภัย

ตรวจสอบโซลูชั่นความปลอดภัยของโรงพยาบาลให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ ตั้งค่าให้ครอบคลุมดีไวซ์ต่างๆ ของพนักงาน เปิดใช้งานไฟร์วอลล์และใช้ฟีเจอร์ป้องกันแรนซัมแวร์ รวมถึงตรวจสอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และอัพเดทอย่างสม่ำเสมอ เช่น เครื่องช่วยหายใจ

หากจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนพนักงาน ซึ่งหมายถึงการเพิ่มจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์และดีไวซ์ส่วนตัวของพนักงาน แอดมินระบบไอทีต้องเตรียมการรักษาความปลอดภัยและจำนวนไลเซนส์การใช้ระบบต่างๆ ให้เพียงพอ