ปรับตัวสู่ “ออนไลน์” “ลาซาด้า” หนุนทั้งผู้ซื้อผู้ขาย

ลาซาด้า

ไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคต้องเปลี่ยนแปลง “ภารดี สินธวณรงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ข้อมูลจากไพรซ์ซ่าระบุว่า ไวรัสโควิด-19 ทำให้การซื้อขายสินค้าออนไลน์ในไทย ช่วง มี.ค. เติบโตสูงขึ้น 80% และส่งผลถึงการใช้งานลาซาด้าด้วย

โดยในแง่ของนักช็อปซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้า เพิ่มขึ้นกว่า 60% ทั้งยังใช้เวลาเฉลี่ยต่อครั้งนาน 11 นาที เพิ่มขึ้น 11% ส่วนผู้ขายเพิ่มขึ้นกว่า 26,000 ราย ทำให้ปัจจุบันมีผู้ค้าและแบรนด์บนลาซาด้ากว่า 200,000 ราย

ขณะที่ มี.ค.ถึง เม.ย. ยอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 100% และมีมูลค่าการซื้อ-ขายเพิ่ม 130% เมื่อเทียบกับต้น ก.พ.

“เดิมก่อนโควิดระบาด สินค้าที่ขายดี จะเป็นกลุ่มสมาร์ทโฟน แท็บเลต และเสื้อผ้าแฟชั่น แต่เมื่อโควิดระบาดพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป สินค้าที่ขายดีคือ กลุ่มที่เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในการกักตัว และทำงานจากที่บ้าน อาทิ ไอที พรินเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อาทิ เครื่องกรองอากาศ หม้อทอดไร้น้ำมัน เตาอบ เตาไฟฟ้า อุปกรณ์เครื่องครัว ของใช้จำเป็นภายในบ้าน และเสื้อผ้าชุดอยู่บ้าน” เป็นต้น”

ดังนั้น ช่วงเวลานี้ถือเป็นความท้าทายของธุรกิจที่จะปรับตัวจากออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ “ลาซาด้า” จึงได้สนับสนุนผู้ขายทั้งรายเดิมและรายใหม่

โดยจัด “SME Stimulus Package” ช่วยเหลือ SMEs ไทยกว่า 50,000 ราย ด้วยการไม่คิดค่าคอมมิสชั่นและค่าธรรมเนียมการชำระเงินในช่วง 15 เม.ย. ถึง 15 พ.ค.นี้ ทั้งยังดึงร้านค้าออฟไลน์ในย่านช็อปปิ้งต่าง ๆ เข้ามาเปิดร้านฟรีบนแพลตฟอร์ม

“O2O Promoter & Affiliate Program” เปิดโอกาสให้พนักงานขายของแบรนด์ต่าง ๆ ในห้างสรรพสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้เข้ามาขายของผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของตนเอง ลาซาด้าจะติด tracking link ให้ และมีระบบตรวจสอบข้อมูลยอดขายจาก link ของแต่ละคน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ใช้ฟังก์ชั่น LazLive ไลฟ์สตรีมบนแอปพลิเคชั่นลาซาด้าฟรีอีกด้วย โดยพนักงานจะได้รับค่าคอมมิสชั่นจากแบรนด์และลาซาด้า

ปัจจุบันมี 20 แบรนด์ชั้นนำเข้าร่วมโครงการ และมีพนักงานขายเข้าร่วมโครงการ 15,000 คน ดึงคนเข้าร้านค้าได้มากว่า 100% ทำให้มียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 42% มีจำนวนลูกค้าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่า 37% รวมถึงมี “LazTalent” ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าทำไลฟ์สตรีมรีวิวสินค้าที่ชื่นชอบ เพื่อหารายได้เพิ่มในช่วงวิกฤต โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 240 ราย ที่หันมาสร้างคอนเทนต์กว่า 450 คอนเทนต์ต่อสัปดาห์ โดยลาซาด้าตั้งเป้าจะมีผู้ขายและนักชHอปทำคอนเทนต์บน LazLive มากขึ้น 40% ต่อเดือน และช่วยเพิ่มรายได้ให้ SME 20%