ซีอีโอเจมาร์ท ย้ำชัด บิ๊กดีลร่วมทุน JFintech – KB Kookmin card ช่วยเสริมแกร่งธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ปลดล็อก D/E บริษัทแม่ได้ 0.5 เท่า แถมได้เงินคืนอีก 3 พันล้านบาท มั่นใจปีนี้คงเป้ากำไรโต 25% ทำลายสถิติกำไรสูงสุดอีกรอบ
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทย่อย คือ บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด (J Fintech) กับ KB Kookmin Card Co., Ltd บริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตการ์ด และสินเชื่อส่วนบุคคลรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ด้วยการเพิ่มทุนจดทะเบียนมูลค่า 650 ล้านบาท ซึ่งการร่วมลงทุนนี้จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของเจมาร์ทในลดจาก 90.2% เหลือ 44.2% และมี KB Kookmin เข้ามาถือหุ้นในเจ ฟินเทค 49% แทน
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
โดยการร่วมทุนครั้งนี้ เจ ฟินเทค ได้ประโยชน์จากการมีต้นทุนการเงินที่ลดลง สำหรับการทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล และยังได้รับองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการเงินเสริมศักยภาพ
ขณะที่ในฝั่งของเจมาร์ท และ JMT บริษัทในเครือ จะได้รับเงินคืนจากสัญญากู้ยืมเงินจากผู้ถือหุ้น รวม 3,012.5 ล้านบาท แบ่งเป็นเจมาร์ท จำนวน 2,717.5 ล้านบาท และ JMT 295 ล้านบาท ภายหลังจากวันที่ KB ได้เข้าจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนแล้วเสร็จ ( Closing Date) ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มิถุนายน 2563 โดยหลังจากที่คู่สัญญาทุกฝ่ายปฎิบัติตามเงื่อนไขบังคับก่อนแล้วเสร็จ KB และบริษัทย่อยจะดำเนินการการหาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน หรือผู้ให้สินเชื่อรายอื่นเพื่อนำมาทดแทน
และยังจะทำให้ Debt to Equity ratio : D/E (อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น) ของเจมาร์ทลดลงราว 0.5 เหลือ D/E อยู่ที่ 2 เท่า
“บิ๊กดีลนี้จะทำให้ปีนี้เป็นอีกปีที่ดีของเจมาร์ท หลังจากในปีที่แล้วได้ทำสถิติทำกำไรสูงสุดในรอบ 30 ปีที่ก่อตั้ง ปีนี้ก็น่าจะเป็นปีที่ทำกำไรได้สูงสุดเช่นกัน โดยยังคงเป้าหมายการเติบโตไว้ที่กำไรเติบโต 25% และรายได้เติบโต 10% จากการบริหารต้นทุนและบริหารค่าใช้จ่าย”