คน-คอมพ์-หุ่นยนต์ หลอมรวมสู่เทคโนโลยียุคหลังโควิด

โควิด-19 ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากให้กับโลกใบนี้เมื่อเร็ว ๆ นี้ สถาบันนโยบายสาธารณะและการพัฒนา (IPPD) เปิดวงเสวนา New World Paradigm Series#3 ในหัวข้อ “ไวรัสเปลี่ยนเทคโนโลยี”

“พัทน์ ภัทรนุธาพร” นักวิจัยจาก MIT Media Lab สถาบันเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก และ cofounder จาก FREAK Lab ประเทศไทย ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ในยุคหลังโควิด-19 พร้อมย้ำว่าหากต้องการผลักดันให้เกิดสตาร์ตอัพหรือนักพัฒนาที่สามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ จำเป็นต้อง “มองไปไกลกว่าที่คนในปัจจุบันจะคาดหมายได้” นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นอาจไม่ตอบโจทย์ในปัจจุบัน แต่เป็นการพัฒนาสำหรับอนาคต เหมือนที่ก่อนหน้านี้งานวิจัยด้าน Touch screen ของ MIT เคยเป็นที่ขบขันของคนยุคก่อนหน้านี้ว่า เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่โง่เขลา

ที่ผ่านมา MIT Media Lab ได้มองไปที่การพัฒนาสร้างวัตถุใหม่ ๆ การอินเทอร์แอกต์ระหว่างหุ่นยนต์กับคนกับคอมพิวเตอร์ ทำให้คนกับเทคโนโลยีไหลรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

“ที่น่าสนใจในยุคหลังโควิด คือผลกระทบจากการที่โลกไร้พรมแดน ทำให้โรคระบาดแพร่ไปทั่วโลกได้ เกิดเป็น rise & fall ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องคิดและหาเทคโนโลยีมาแก้ไข”

โดยเทคโนโลยีที่น่าจะมีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกหลังโควิดคือ wearable technology, AI coversation agent และ e-Learning

“wearable technology จะทำให้เข้าถึง context ที่มาจากร่างกายคน และนำไปสู่การทำให้ชีวิตคนนั้นดีขึ้น เชื่อมให้คอมพิวเตอร์กับมนุษย์ ซึ่งเริ่มเห็นหลังเมื่อ 2 ปีก่อนคือมีการพัฒนา “certification” ที่อาศัยแพตเทิร์นของข้อมูลจากคนทั่วโลกเพื่อนำมาคาดการณ์การเกิดโรคระบาดได้”

แต่ในการออกแบบต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพราะข้อมูลที่นำมาใช้ประมวลผล เป็นข้อมูลที่่ออกมาจากร่างกายของมนุษย์แต่ละคน จึงอาจทำให้เกิดอันตรายได้หากข้อมูลนั้นเล็ดลอดออกไปสู่ภายนอก ฉะนั้นจะต้องทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวตนได้

“ในอนาคตข้อมูลจาก wearable จะต้องมากไปกว่าแค่การเต้นของหัวใจ ชีพจร ตอนนี้กำลังพยายามทำให้เหมือนการนำห้องแล็บเข้าไปอยู่ในตัวคน ทำให้ข้อมูลชีวเคมีที่เกิดขึ้นในตัวคนถูกวิเคราะห์ได้อย่างเรียลไทม์ และยังใช้ Wearable device ช่วยในการแก้ปัญหาได้ เช่น โปรเจ็กต์ที่กำลังพัฒนาอยู่ wearable sanitizer การพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ที่สามารถยิงแอลกอฮอล์จากมือได้โดยใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ประมวลผลว่า ควรจะยิงแอลกอฮอล์เมื่อไร ได้แรงบันดาลใจมาจากสไปเดอร์แมน”

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ข้อมูลที่เก็บจากร่างกายเพื่อนำไปสู่การดีไซน์แบบเฉพาะเจาะจงได้ อาทิ making food with the mind เครื่องสร้างทำอาหารด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ที่สร้างเมนูต่างๆ ได้ตรงความต้องการของผู้ใช้ ด้วยการอ่านค่าจากคลื่นสมองที่ส่งมาจาก wearable เป็นการแสดงศักยภาพของ IOT ที่เชื่อมจากคลื่นสมองที่สามารถสร้าง out put ได้

“AI conversation agent” เป็นอีกเทรนด์ที่กำลังมา เกิดการใช้ภาษาทำให้เกิดการเชื่อมต่อ อาทิ Buddha bot ที่นำข้อมูลจากพระไตรปิฎกเพื่อให้คนทั่วไปสามารถสนทนาธรรมกับพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นการทำให้ AI สามารถเชื่อมต่อกับวัฒนธรรม โดย 64% ของคนในสหรัฐใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา

ล่าสุดคือ COVID bot ที่พัฒนาเป็นภาษาไทยก่อน จนปัจจุบันใช้งานแล้วใน 56 ประเทศทั่วโลกตามดีมานด์ที่เกิดขึ้นมหาศาล ซึ่งบอตนอกจากจะให้คำแนะนำที่อยู่บนพื้นฐานของแพทย์และกรมควบคุมโรคยังสามารถติดตามข้อมูลสุขภาพเป็นรายคนได้

“การพัฒนานี้ทำให้พบว่า AI agent ช่วยลดความกังวลของคนต่อโรคนั้น ๆ ได้ ทำให้ความกลัวต่อความเสี่ยงลดลง และเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ผลลัพธ์ที่ได้เป็นรองแค่ปฏิสัมพันธ์กับหมอเท่านั้นเอง เนื่องจากเข้าถึงง่าย ใช้การสื่อสารที่ง่ายจนไปถึงอีกโปรเจ็กต์คือ Saku Bot สาคู กูรูงาน เพื่อช่วยเชื่อมคนที่ต้องการงาน กับนายจ้างที่หาลูกจ้างเข้าด้วยกัน ช่วยลดปัญหาคนตกงานจากโควิด”

ด้านเทคโนโลยีออนไลน์เลิร์นนิ่งโควิด-19 ทำให้หลายคนไม่ได้เรียนแค่โรงเรียนที่ตนสังกัดเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าไปยังคอร์สออนไลน์อื่น ๆ

“ทำให้เห็นว่าดิจิทัลทำให้เกิดการแยกจาก Physical สภาพทางกายภาพกับสภาพแวดล้อมออกจากกัน การเรียนไม่จำเป็นต้องติดอยู่กับที่อยู่แต่เป็น Global Learner เชื่อมกับองค์ความรู้จากทั่วโลกได้”

ฉะนั้น จะได้เห็นพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างคอนเทนต์แบบ “เฉพาะตัว”

สำหรับการเรียนออนไลน์มากขึ้น โดยอาศัยการจับสัญญาณทางร่างกาย และวิเคราะห์คลื่นสมองเพื่อให้เกิดการเรียนออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ

“ต่อไปอาจจะมีการสร้างครูให้เป็นไอรอนแมน มีหน้าเป็นสตีฟ จ็อบส์ เป็นนักวิทยาศาสตร์ในอดีต มาช่วยทำให้การเรียนรู้สนุกมากขึ้น”

ในโลกเทคโนโลยียุคหลังโควิด สิ่งที่จะได้เห็นคือ การโยงศิลปะ วิทยาศาสตร์ วิศวะ ดีไซน์ มารวมกัน ไม่แยกว่าเป็นสาขาใดสาขาหนึ่ง ทำให้เกิดเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลก