“เอไอเอส” ประกาศศักดา ปูพรม 5G ครบทั้ง “ดิน-ฟ้า-ทะเล” กวาดเรียบพันธมิตร EEC-อู่ตะเภา

เอไอเอส ประกาศวิสัยทัศน์ดัน 5G ฟื้นฟูประเทศ ปูพรมเครือข่าย 5G เป็นดิจิทัลอินฟาสตั๊กเจอร์  เดินหน้าจับมือพันธมิตร EEC สร้างแต้มดึงดูดนักลงทุนเสริมศักยภาพประเทศไทย

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) “เอไอเอส” กล่าวในเวที AIS 5G I FORGING THAILAND’s RECOVERY  ระบุว่า จะเดินหน้าสร้างเครือข่าย 5G เพื่อเป็นดิจิทัลอินฟาสตั๊กเจอร์ของประเทศไทย  ต่อเนื่องจากที่กว่า 30 ปี เอไอเอส ได้ลงทุนกว่า 1.1 ล้านล้านบาท  และปีนี้ยังเดินหน้าลงทุนตามแผนที่วางไว้อีก 35,000 – 40,000 ล้านบาท

“วิกฤตโควิด-19 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เราต้อง Fall Fight Future คือ เมื่อเกิดวิกฤตก็ต้องต่อสู้ให้ก้าวผ่านไปสู่อนาคตให้ได้  ซึ่ง AIS 5G เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ดิจิทัลเส้นใหม่ ที่เอไอเอสได้ปูพรมเครือข่ายครบ 77 จังหวัดไปตั้งแต่ พ.ค. ที่ผ่านมา”

จากนี้จะใช้ขีดความสามารถของเครือข่าย AIS 5G ซึ่งมีคุณสมบัติของเทคโนโลยีที่ “เร็ว แรง เสถียร”  ช่วยเสริมขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรม เพื่อเป็นกลไกในการฟื้นฟูประเทศ  โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก Eastern Economic Corridor –  EEC) ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่จะดึงดูดนักลงทุนและเสริมศักยภาพภาคอุตสาหกรรมเพื่อฟื้นฟูประเทศ

โดยเอไอเอสได้จับมือกับพันธมิตร ปูพรมศักยภาพ 5G ทั้งบนภาคพื้นดิน – อากาศ- ทะเล  ได้แก่  ในภาคพื้นดิน  จะร่วมกับ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ประกอบด้วย อมตะ คอร์ปอเรชัน, สหพัฒนา อินเตอร์โฮลดิ้ง, กลุ่ม WHA เริ่มทดลองสอบ 5G Smart City แล้ว

ภาคทางอากาศ  ได้จับมือกับ บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น ในนาม กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ผู้ชนะการประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เริ่มทดลองทดสอบ 5G Smart Airport แล้ว

และภาคทางทะเล  ได้ร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่เริ่มทดลองทดสอบ 5G แล้ว ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง

“ในยุค 3G ไทยช้ากว่าประเทศอื่นๆ ประมาณ 10 ปี ในยุค 4G ไทยยังช้ากว่า นานาประเทศ ประมาณ 5 ปี แต่สำหรับในยุค 5G ประเทศไทยไม่ช้าไปกว่าใคร โดยเฉพาะความรุดหน้าด้านเทคโนโลยีที่เทียบชั้นเครือข่าย 5G ชั้นนำ อย่างประเทศจีนและเกาหลี และ AIS 5G จะเป็น Infrastructure ใหม่ให้แก่ประเทศไทย”