Acer เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ไอทีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างเลี่ยงไม่ได้เมื่อบริษัทแม่อยู่ที่ “ไต้หวัน”
“แอนดรูว ฮู” ประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เอเซอร์ ระบุว่า ภาวะล็อกดาวน์และการหยุดชะงักของซัพพลายเชน ส่งผลกระทบต่อรายได้เอเซอร์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ไตรมาสแรกของปีนี้มีรายได้ลดลง 10% แต่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 2 หลังจากกระบวนการผลิตเริ่มกลับมา ทั้งหลายประเทศเริ่มเห็นการเติบโตระดับ 2 ดิจิต เช่น เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมถึงญี่ปุ่น ฮ่องกง ก็เริ่มเห็นสัญญาณบวก ซึ่งหนึ่งในตลาดที่เติบโตได้ดี คือ “เกมมิ่ง”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ขณะเดียวกัน เอเซอร์ได้หาโอกาสใหม่ ๆ จากการที่ผู้คนต้อง work-learn for home รวมถึงการต้องจัดอีเวนต์ออนไลน์ จึงมีโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐเข้ามาเสริมด้วย รวมถึงการมีส่วนร่วมในการจัดงาน PUBG Continental APAC Charity Tournament เป็นต้น
นอกจากนี้ ช่องทางจำหน่ายใหม่อย่าง Acer e-Store ที่ส่งตรงสินค้าถึงมือผู้บริโภค คาดว่าในไตรมาส 2 น่าจะเติบโตถึง 5 เท่า ทั้งยังเป็นช่องทางสำคัญในการจัดกิจกรรมของบริษัท
ด้านตลาดในประเทศไทยนั้น “นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า ในช่วงจากนี้ยังเน้นที่ตลาดการศึกษาเช่นเดิม แต่ต้องปรับไปสู่ออนไลน์มากขึ้น และเพิ่มโมเดลธุรกิจที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการศึกษา อาทิ บางแห่งจะเปิดให้นักศึกษา “ยืมใช้” อุปกรณ์ไอทีได้ นอกเหนือจากที่มีทั้งฮาร์ดแวร์และเน็ตเวิร์กโซลูชั่น
ทั้งจากนี้จะเห็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่นอกกรอบไปจาก “พีซี-โน้ตบุ๊ก” ด้วย
ขณะที่การเปิดห้างสรรพสินค้า ทำให้ดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการซื้ออุปกรณ์สำหรับอีเลิร์นนิ่งซึ่งเอเซอร์ได้มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษกับพาร์ตเนอร์
นอกเหนือไปจากจุดเด่นด้านความแข็งแรงของแบรนด์ บริการหลังการขาย ศูนย์บริการที่ครอบคลุม ซึ่งประเทศไทยเป็น hub ด้านอะไหล่ของแบรนด์ในภูมิภาคอินโดจีนด้วย
ส่วนเป้าหมายรายได้ในปีนี้ จากเดิมตั้งไว้จะเพิ่มขึ้น 15% ก็อาจจะต้องปรับลด โดยล่าสุดตั้งเป้า “เสมอตัว” เพราะยังมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน เช่นเดียวกับภาพรวมตลาดไอทีที่คาดว่าจะทรง ๆ ตัวเช่นกัน