จัดทัพโก (สามารถ) “ดิจิทัล” ปิดฉาก MVNO ลดสเกลมือถือ

จัดทัพรอบล่าสุดถึงคิว “สามารถไอ-โมบาย” ที่ไม่เพียงเปลี่ยนชื่อเป็น “สามารถ ดิจิตอล” แต่ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ อันไหนไปต่อไม่ไหวก็เลิกได้แม้จะทำมานาน อย่างการเป็นตัวแทนบริการโทรศัพท์มือถือ (MVNO) ของ “ทีโอทีและแคท” ก็เลิกหมด เช่นกันกับเฮาส์แบรนด์ “ไอ-โมบาย” ก็ลดสเกลลงมาก จากหลักล้านเครื่องต่อปีเหลือแค่หลักหมื่นหลักแสนเครื่อง

“สามารถไอ-โมบาย” ในชื่อใหม่ “สามารถ ดิจิตอล” แบ่งโครงสร้างเป็น 5 สาย ได้แก่ 1.ธุรกิจให้บริการด้านการสื่อสารผ่านระบบดิจิทัล (digital network) เพิ่งเซ็นสัญญากับ “กสท โทรคมนาคม” ในโครงการติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายวิทยุคมนาคมระบบดิจิทัล (digital trunked radio system) ให้บริการวิทยุสื่อสารเฉพาะกลุ่ม คาดว่าจะลงทุน 3,000 ล้านบาท ติดตั้งสถานีฐาน 1,000 แห่งทั่วประเทศ ตั้งเป้าขายเครื่อง 100,000-150,000 เครื่อง มีรายได้ 3,000 ล้านบาท ใน 2-3 ปี มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นองค์กรภาครัฐที่เน้นการสื่อสารทางไกลที่ต้องการความปลอดภัย อีกโปรเจ็กต์ คือการติดตั้งเสาสัญญาณร่วม (co-tower) ในเขตอุทานแห่งชาติ ร่วมกับแคท

2.สายธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ที่จะมุ่งไปยัง “ดิจิทัลไลฟ์สไตล์” ปรับคอนเทนต์ที่มีอยู่ เช่น EDT เดิมเน้นให้ข้อมูลเรื่องกินดื่มเที่ยว ขยายมายังบริการอื่น เช่น บริการวางแผนท่องเที่ยวครบวงจร, บริการส่งอาหาร, หมอดู เป็นต้น

3.”ไอสปอร์ต” ดำเนินธุรกิจกีฬาครบวงจร เพื่อมุ่งสู่ความเป็นดิจิทัลสปอร์ตครบวงจร นอกจากได้สิทธิถ่ายทอดสัญญาณไทยพรีเมียร์ลีก 100 กว่าแมตช์ในแต่ละปียังมีธุรกิจทัวร์สำหรับแฟนกีฬาที่ชอบการท่องเที่ยว, จัดกิจกรรมกีฬา และบันเทิง, ขายสินค้ากีฬาออนไลน์ในเว็บไซต์ isportmart.com เป็นต้น

4.ดิจิทัล พับลิก แพลตฟอร์ม เข้าไปพัฒนาบริการให้ภาครัฐ นำข้อมูลที่มีมาสู่ประชาชนผ่านแอปพลิเคชั่น เช่น บริการขายฝากสินทรัพย์ออนไลน์ ZAZZET และ 5.ดิจิทัล “ไอโอที”

“วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์” แม่ทัพกลุ่มสามารถ กล่าวว่า “สามารถ ดิจิตอล” เคยมีรายได้หลักมาจากโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันต้องยอมรับว่าการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นมาก มีเครื่องรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดต่อเนื่อง รวมถึงการเข้ามาทำตลาดของค่ายมือถือเอง ล้วนส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท ซึ่งที่ผ่านมามีการปรับตัวต่อเนื่อง แต่ใน 1-2 ปีมานี้ก็ยังตกอยู่ในสภาวะขาดทุนจึงต้องมองหาธุรกิจใหม่ ๆ มายังดิจิทัลเซอร์วิส

“ไม่ใช่แต่เราที่ต้องปรับตัวตามเทรนด์เทคโนโลยีและผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งต้องเปลี่ยนให้เร็ว และประเมินตนเองให้ได้ว่าความถนัดหรือความสามารถในการแข่งขันของเราอยู่ตรงไหน อะไรที่สู้คนอื่นไม่ได้ก็ไม่ทำ ไปหาธุรกิจใหม่ ๆ ไปทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้”

สำหรับเป้ารายได้รวม “วัฒน์ชัย” ยอมรับว่า ที่เคยประกาศไว้ต้นปีที่ 20,000 ล้านบาท คงไปไม่ถึง แต่จะพยายามทำให้ได้ใกล้เคียงกับที่ตั้งไว้ให้มากที่สุด และคาดว่าในไตรมาสสุดท้ายปีนี้จะดีขึ้นกว่าไตรมาสอื่น