เจาะวิถีใหม่ “เทรดโชว์ไอที” ไฮบริดอีเวนต์พลิกเกม…คอมมาร์ต

เจาะวิถีใหม่

เมื่อยังไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทำให้หลาย ๆ ประเทศรวมถึงไทยยังต้องคงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมกระแส social distancing ต่อไปกระทบต่อหลาย ๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะอีเวนต์ถือเป็นธุรกิจที่อ่อนไหวต่อทุกสถานการณ์ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจอีเวนต์ต่างต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการหยิบเทคโนโลยี แพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามาผสมผสานเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อได้

“บุญเลิศ นราไท” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงาน Commart Thailand กล่าวว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้เกิดวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ (new normal) ที่เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างชัดเจน ประกอบกับยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็ยังกังวลเรื่องความปลอดภัย ทำให้การจัดอีเวนต์รูปแบบเดิม ๆ ที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมากเปลี่ยนไป โดยมุ่งสู่ไฮบริดอีเวนต์มากขึ้นด้วยการผสมผสานระหว่างการจัดอีเวนต์ออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน โดยการจัดงานมหกรรมสินค้าไอที “คอมมาร์ต ไทยแลนด์” (Commart Thailand) ที่จะเกิดขึ้นวันที่ 26 พ.ย.-8 ธ.ค. 63 จะถูกจัดเป็นไฮบริดอีเวนต์อย่างเต็มรูปแบบครั้งแรก

“การจัดงานคอมมาร์ตครั้งล่าสุดพบว่าผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ยังสนใจมาร่วมงาน โดยมียอดลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มที่ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยอยู่สะท้อนให้เห็นจากยอดพรีออร์เดอร์

“คอมมาร์ตรับหิ้ว” ที่พุ่งสูงขึ้นแม้เพิ่งเปิดให้บริการครั้งแรก สำหรับกลุ่มนักช็อปที่ไม่สะดวกเดินทางมางานสามารถสั่งได้ผ่านช่องทาง Line@Commart Thailand ซึ่งมีทีมงานคอมมาร์ตไปหิ้วของในงานและส่งตรงถึงบ้านให้เสมือนได้เข้ามาเดินเอง ซึ่งบริษัทเชื่อว่ากระแส social distancing ยังคงมีต่อไป ทำให้ต้องปรับตัว ด้วยการเปิดให้ลงทะเบียนผ่านออนไลน์ จำกัดรอบการเข้างานเฉลี่ย 3,525 คนต่อรอบ พร้อมทดลองจัดไฮบริดอีเวนต์ก่อนจะจัดเต็มรูปแบบในงานคอมมาร์ตปลายปีนี้”

สำหรับ “คอมมาร์ต ไทยแลนด์” ที่จะจัดขึ้นปลายปีนี้เป็นการต่อยอดจากงานคอมมาร์ต ครั้งที่ 54 ซึ่งจัดขึ้่นเมื่อวันที่20-23 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยจะนำข้อมูลข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาปรับปรุง ทั้งจากการถ่ายทอดสดส่งตรงจากงานคอมมาร์ตผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ “Commart Thailand” ที่มีการแนะนำสินค้า โปรโมชั่นต่าง ๆ และอาจจะเพิ่มทีมงาน “คอมมาร์ตรับหิ้ว”จากที่มีอยู่ 7-8 คนเท่านั้น เพื่อให้บริการได้ดีขึ้น

“บุญเลิศ” ขยายความว่า แม้ช่วงมาตรการล็อกดาวน์ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าไอทีไปแล้วจากกระแสเวิร์กฟรอมโฮม และการเรียนออนไลน์ แต่ความต้องการสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี ไอที ก็ยังเติบโตขึ้นแต่ภาพรวมสินค้ากลุ่มไอทีอาจจะไม่เพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากผู้ประกอบการไม่มีสินค้าจำหน่าย เพราะผู้ผลิตในหลายประเทศไม่สามารถส่งสินค้าได้ ทำให้สินค้าบางหมวดเริ่มขาดตลาดตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานคอมมาร์ตครั้งล่าสุดก็ต้องใช้เวลาเตรียมสต๊อกสินค้าพอสมควร ด้วยการรวบรวมสินค้าจากหลายพื้นที่ให้เพียงพอต่อการขาย อย่างไรก็ตาม คาดว่าซัพพลายต่างประเทศน่าจะกลับมาส่งสินค้าได้ในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งจะทำให้แนวโน้มสินค้าไอทีค่อย ๆ ดีขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการอีเวนต์หลายรายที่ใช้เทคโนโลยีทั้ง AR (Augmented Reality), VR (Virtual Reality) การเก็บดาต้าเข้ามาสร้างสีสันและจัดไฮบริดอีเวนต์มากขึ้น เช่นบริษัท อินโฟเฟด จำกัด เจ้าของอีสปอร์ตอารีน่า และผู้จัดแข่งขันอีสปอร์ตก็ต้องปรับตัวใหม่ โดยนำเทคโนโลยีต่าง ๆมาใช้ในการจัดอีเวนต์ งานสัมมนาออนไลน์มากขึ้น หรือ ยักษ์ใหญ่อินเด็กซ์

ครีเอทีฟ วิลเลจ ที่จับมือกับแกรมมี่จัดไฮบริดคอนเสิร์ตครั้งแรกขึ้นเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมารวมถึงเวทีนางงาม Miss Universe Thailand ที่ปีนี้จะโชว์ความพิเศษด้วยการนำเทคโนโลยี AR และการรับชมผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์มาใช้ในการประกวด